ประเภทรางน้ำฝนที่เหมาะสม มีแบบไหนบ้าง ?
“รางน้ำฝน” ที่หลายบ้านขาดไม่ได้ เนื่องจากเป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันน้ำฝน รวมถึงสิ่งสกปรกต่างๆ ไหลลงมาเปื้อนผนังรวมถึงส่วนอื่นของบ้าน อีกทั้งยังช่วยไม่ให้เกิดปัญหาน้ำรั่วไหลย้อนลงมา รวมถึงช่วยไม่ให้น้ำฝนกระเด็นเข้ามาภายในบ้าน เรียกได้ว่ามาพร้อมสารพัดประโยชน์ เป็นสิ่งจำเป็นที่ทุกบ้านควรติดตั้ง
ประโยชน์ของรางน้ำฝน ได้แก่...
1. ช่วยให้น้ำฝนไหลลงไปในจุดที่เหมาะสม
2. ช่วยป้องกันไม่ให้แปนชายน้ำหลังคาบ้านผุกร่อน
3. ช่วยป้องกันไม่ให้คราบน้ำฝนที่ชะล้างฝุ่นไหลลงมาเปื้อนผนังบ้าน และทำให้เกิดคราบสกปรก
4. ช่วยป้องกันไม่ให้ผนังบ้านชื้นที่ก่อให้เกิดเชื้อรา และทำให้สีบ้านหมอง
5. ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำฝนกระเด็นเข้าบ้าน รวมถึงบ้านใกล้เคียง
6. ช่วยป้องกันปัญหาดินทรุดเนื่องจากมีน้ำขัง
7. ช่วยป้องกันแรกกระแทกของน้ำไปยังต้นไม้
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือการศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับรางน้ำฝน รวมถึงเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ
เลือกรางน้ำฝนแบบไหนดี ?
ควนเลือกรางน้ำฝนที่วัสดุมีอายุการใช้ไม่ต่ำกว่า 10-15 ปี มีรูปร่างแบบ ป.ปลา ด้านหลังสั้นกว่าด้านหน้า หากตื้นเกินไปจะทำให้น้ำไหลย้อนเข้าไปฝ้าเพดาน และเลือกใช้ให้เหมาะกับการรับน้ำ
รางน้ำฝนขนาด 4 นิ้ว ใช้กับหลังคาที่มีความยาวไม่เกิน 5 เมตร
รางน้ำฝนขนาด 5 นิ้ว ใช้กับหลังคาที่มีความยาวไม่เกิน 5-15 เมตร
รางน้ำฝนขนาด 6 นิ้ว ใช้กับหลังคาที่มีความยาวมากกว่า 15 เมตร
รางน้ำฝนแบบไหนบ้าง ?
รางน้ำฝนไวนิล : เป็นรางน้ำผลิตจากพลาสติก มีลักษณะผิวมันเรียบ และมีให้เลือกหลายสี ไม่เป็นสนิม มีอายุการใช้งาน 10 ปีขึ้น เป็นประเภทรางน้ำฝนที่เหมาะกับบ้านทุกสไตล์
รางน้ำฝนไฟเบอร์กลาส : มีลักษณะผิวมันเรียบ และมีให้สีให้เลือกเยอะ ไม่เป็นสนิม มีอายุการใช้งาน 20 ปีขึ้นไป ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมี ทำให้ไม่เกิดการผุกร่อน
รางน้ำฝนสแตนเลส : มีลักษณะมันวาว มีความทนทาน ไม่เป็นสนิม มีอายุการใช้งาน 10 ปีขึ้นไป แต่มีข้อเสียตรงที่มักเกิดปัญหารั่วซึมบริเวณที่เชื่อมรอยต่อ
รางน้ำฝนสังกะสี : เป็นประเภทรางน้ำฝนที่ราคาถูก มีอายุการใช้งาน 5 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้น มีข้อเสียคือเป็นสนิม และผุง่าย
รางน้ำฝนอลูมิเนียม : เป็นประเภทรางน้ำฝนที่มีน้ำหนักเบา ทนต่อการกัดกร่อน มีอายุการใช้งานนานถึง 25 ปี
อย่างที่กล่าวมาข้างต้นว่า สิ่งที่ไม่ควรละเลยคือ การเลือกรางน้ำฝนที่เหมาะสม และมีคุณภาพดี รวมถึงต้องคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้
- เลือกวัสดุที่มีอายุการใช้งานยาวนาน และดูแลรักษาง่าย
- สำรวจราคาตามท้องตลาดเพื่อให้ได้รางน้ำฝนในราคาที่เหมาะสม และมีคุณภาพดี
- เลือกขนาดที่เหมาะสม โดยให้เลือกประมาณ 5-6 นิ้ว หากหลังคามีระยะที่ยาว ควรเลือกที่รางน้ำฝนที่มีรูระบายน้ำหลายจุดจะได้ระบายน้ำทัน
- ติดตั้งรางน้ำฝนที่ถูกวิธี และเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ
ถ้าไม่อยากต้องปวดหัว และเสียเงินซ่อมแซมโดยใช่เหตุ เพราะติดตั้งรางน้ำฝนแบบผิดๆ ควรเลือกช่างที่มีความรู้ความสามารถ เลือกรางน้ำฝนที่เหมาะสม และเลือกใช้อุปกรณ์ในการติดตั้งที่มีคุณภาพ พี่เข้ขอแนะนำ จระเข้ เทปซีล ปิดสนิทแนบรอยต่อ กันน้ำ กันรังสี UV โดยเป็นเทปกาวอเนกประสงค์ชนิดยางสังเคราะห์ บิวทิล มีการยึดเกาะดี และความคงตัวสูง เหนียว ที่สำคัญคือไม่มีส่วนผสมของโซเว้นท์ ทำให้วัสดุไม่กรอบ แตกร้าว มีความทึบน้ำ และป้องกันการซึมผ่านของน้ำได้ดี สามารถใช้ปิดรอยต่อบริเวณรางน้ำฝนได้อย่างดีเยี่ยม
บทความที่เกี่ยวข้อง
รางน้ำฝนไวนิล ดีอย่างไร ทำไมคนไทยนิยมใช้
รางน้ำฝนมีกี่ประเภท ทำไมถึงจำเป็นสำหรับบ้าน
5 วัสดุรางน้ำฝน แบบไหนดี ใช้งานง่าย