คุณสมบัติเด่น
• แรงยึดเกาะสูง 5 เท่า ยึดเกาะได้หลายพื้นผิว
• ทนต่อทุกสภาพอากาศ แรงกดและแรงสั่นสะเทือน
• ซ่อมได้ทุกพื้นผิว ทั้งพื้น-ผนัง ภายในและภายนอกอาคาร
• ปูทับกระเบื้องเดิม ไม่ต้องทุบ
ลักษณะการใช้งาน
กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง (สำหรับงานซ่อมแซม) เป็นปูนกาวที่เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมกระเบื้องแตกร้าว หลุดล่อน บริเวณวงกบประตู-หน้าต่าง หลังคารั่ว ท่อระบายน้ำ หรือวัสดุที่ต้องการแรงยึดเกาะสูง ใช้ปูได้หลายพื้นผิว ทั้งงานพื้นและผนัง ภายในและภายนอกอาคาร
** ควรใช้คู่กับกาวยาแนวจระเข้
มาตรฐานอเมริกา : ANSI A118.1, A118.4, A118.11, A118.15
มาตรฐานยุโรป : EN 12004 Class C2S1E
มาตรฐานนานาชาติ : ISO 13007 Class C2S1E
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม : มอก. 2703-2566 (ชั้นคุณภาพพิเศษ)
สีของผลิตภัณฑ์ : สีเทา
ขนาดบรรจุ : 1 กก. / 4 กก.
กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สำหรับงานซ่อมแซม มีผงลาเท็กซ์ที่เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะที่มากขึ้น มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทราย และเคมีผสม เพิ่มชนิดพิเศษอื่นๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ให้การยึดเกาะสูง มีความยืดหยุนที่ดี ยึดเกาะได้หลายพื้นผิว เหมาะสำหรับพื้นที่ต้องทนต่อการรับแรงอัดสูง และทนต่อแรงสั่นสะเทือน ใช้ได้ทั้งพื้นและผนัง ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมกระเบื้องแตกร้าว หลุดล่อนทุกชนิด
ข้อแนะนำการใช้
การเตรียมพื้นผิว
พื้นผิวใหม่ : พื้นผิวที่ต้องการปูจะต้องแข็ง เรียบ ได้ระดับ แห้ง และสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน สิ่งแปลกปลอม อื่น ๆ และมีการดูดซึมน้ำปกติ หากพื้นผิวผนังปูนฉาบใหม่หรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มตามมาตรฐาน 7 วัน หรือ 168 ชั่วโมง ต่อ ความหนา 1 ซม.
พื้นผิวเดิม : ล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำฉีด ขัดพื้นผิวให้สะอาด เพื่อขจัดคราบฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูนและสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และกวาดน้ำที่ขังบนพื้นผิวให้หมดก่อนที่ใช้กาวซีเมนต์
กรณีปูทับกระเบื้องเดิม : ต้องตรวจสอบความสามารถในการยึดเกาะระหว่างกระเบื้องและผิวคอนกรีต หากความสามารถในการยึดเกาะต่ำ
จะต้องสกัดกระเบื้องเดิมออกให้หมด และสกัดพื้นเดิมให้ลึกอย่างน้อย 3-5 มม. เพื่อให้กาวซีเมนต์ยึดเกาะได้ ทำความสะอาดให้แห้ง ปราศจากสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ
อัตราส่วนผสม
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สำหรับงานซ่อมแซม 1 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อ น้ำ 0.28 ลิตร
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สำหรับงานซ่อมแซม 4 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อ น้ำ 1.12 ลิตร หรือ
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง สำหรับงานซ่อมแซม 2.7 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร
การผสม
• เทปูนกาวซีเมนต์ลงในน้ำใช้เครื่องผสมรอบต่ำประมาณ 150 รอบ ต่อนาที (150 rpm) ช่วยในการผสมให้เข้ากัน
• ทิ้งไว้เพื่อให้เคมีบ่มตัวประมาณ 15 นาที จึงกวนซ้ำอีกครั้งก่อนนำมาใช้งาน อย่าเติมน้ำหรือกาวซีเมนต์ลงไปเพิ่มหลังจากที่ทิ้งไว้จนเคมีบ่มตัวแล้วเคมีบ่มตัวแล้ว
การใช้งาน
1. ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นหรือผนังที่ต้องการปูกระเบื้อง ให้ทั่วและเพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง
2. ใช้ด้านหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นร่อง โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุมประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง (ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง)
3. ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชยความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้องและให้มั่นใจว่ากาวซีเมนต์อยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศ ทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตกล่อนในภายหลัง
4. นำกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวาง ในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น
5. สามารถจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการ ภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะทำงานและไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีกเมื่อเลยเวลาดังกล่าว เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์ ควรแน่ใจว่าหลังกระเบื้องสัมผัสกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น ซึ่งความหนาของกาวซีเมนต์ที่เหมาะสม ควรจะอยู่ระหว่าง 2-10 มม. ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเบื้องหรือหิน
การบ่ม และการยาแนวกระเบื้อง
หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแล้วจึงยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด ควรเลือกกาวยาแนวจระเข้ให้เหมาะสมกับใช้ตามลักษณะของร่องและลักษณะของสถานที่
ข้อเสนอแนะ
• เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรยาแนวกระเบื้องหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง
• เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ควรใช้กาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้องให้ทั่วแผ่น
ข้อจำกัดในการใช้
สามารถใช้ปูบนพื้นผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ต้องมีความหนาอย่างน้อย 19 มม. และมีการติดตั้งที่แข็งแรง ไม่โก่งงอ
**หากต้องการปูพื้นผิวของวัสดุที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ
ข้อควรระวัง
• ผลิตภัณฑ์อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ
• ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
• ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด
• ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
• ห้ามรับประทาน
การเก็บรักษา
• ควรเก็บไว้ในที่ร่ม แห้ง ปราศจากความชื้น และมีอากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม
• อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้
การบรรจุ
ขนาดบรรจุ : 1 กิโลกรัม, 4 กิโลกรัม / ถุง