• สำหรับกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาดใหญ่ พื้นและผนัง ภายในอาคาร
• กระเบื้องเซรามิกทุกขนาด พื้นและผนัง ภายใน-ภายนอกอาคาร
• ปาดลื่น เนื้อละเอียด ทำงานง่าย
ลักษณะการใช้งาน
กาวซีเมนต์ จระเข้เขียว เป็นปูนกาวที่เหมาะสำหรับงานปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาดใหญ่ และกระเบื้องทั่วไป สามารถใช้ปูกระเบื้องพื้นและผนังภายใน-ภายนอกอาคาร โดยไม่ต้องแช่กระเบื้องในน้ำก่อนปู
ผลิตภัณฑ์ที่สามารถเพิ่มคะแนนในการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว
มาตรฐานอเมริกา : ANSI A118.1
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม : มอก. 2703-2566 (ชั้นคุณภาพทั่วไป)
สีของผลิตภัณฑ์ : สีเทา
ขนาดบรรจุ : 20 กิโลกรัม, 25 กิโลกรัม/ถุง
กาวซีเมนต์จระเข้เขียว ประกอบด้วยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ทรายละเอียดคัดพิเศษ และวัสดุผสมพิเศษอื่น ๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์ มีคุณสมบัติที่ให้การยึดเกาะสูง กาวซีเมนต์จระเข้เขียวใช้สำหรับงานปูกระเบื้องเซรามิกทั่วไป กระเบื้องดูดซึมน้ำต่ำ ใช้ได้ทั้งพื้นและผนังภายในอาคาร โดยไม่ต้องแช่กระเบื้องในน้ำก่อนปู
ข้อแนะนำการใช้
การเตรียมพื้นผิว
พื้นผิวใหม่ : พื้นผิวที่ต้องการปูจะต้องแข็ง เรียบ ได้ระดับ แห้ง และสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และมีการดูดซึมน้ำปกติ หากพื้นผิวผนังปูนฉาบใหม่หรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มตามมาตรฐาน 7 วัน หรือ 168 ชั่วโมง ต่อความหนา 1 ซม.
พื้นผิวเดิม : ล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำฉีด ขัดพื้นผิวให้สะอาด เพื่อขจัดคราบฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และกวาดน้ำที่ขังบนพื้นผิวให้หมดก่อนที่ใช้กาวซีเมนต์
อัตราส่วนผสม
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้เขียว 20 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อ น้ำ 5.60 ลิตร
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้เขียว 25 กิโลกรัม (1 ถุง) ต่อ น้ำ 7 ลิตร หรือ
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้เขียว 2.5 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร
การผสม
• เทปูนกาวซีเมนต์ลงในน้ำใช้เครื่องผสมรอบต่ำประมาณ 150 รอบ ต่อนาที (150 rpm) ช่วยในการผสมให้เข้ากัน
• ทิ้งไว้เพื่อให้เคมีบ่มตัวประมาณ 15 นาที จึงกวนซ้ำอีกครั้งก่อนนำมาใช้งาน อย่าเติมน้ำหรือกาวซีเมนต์ลงไปเพิ่ม หลังจากที่ทิ้งไว้จนเคมีบ่มตัวแล้ว
การใช้งาน
1. ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นหรือผนังที่ต้องการปูกระเบื้องให้ทั่ว และเพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง
2. ใช้ด้านหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นร่อง โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุมประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง (ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง)
3. ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชยความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้อง และให้มั่นใจว่ากาวซีเมนต์อยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตกล่อนในภายหลัง
4. นำกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวางในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น
5. สามารถจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการภายในเวลาไม่เกิน 15 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะทำงานและไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีกเมื่อเลยเวลาดังกล่าว เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์ ควรแน่ใจว่าหลังกระเบื้องสัมผัสกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น ซึ่งความหนาของกาวซีเมนต์ที่เหมาะสม ควรจะอยู่ระหว่าง 2-10 มม. ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเบื้องหรือหิน
การบ่ม และการยาแนวกระเบื้อง
หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ แล้วจึงยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด ควรเลือกกาวยาแนวจระเข้ให้เหมาะสมกับใช้ตามลักษณะของร่องและลักษณะของสถานที่
ข้อเสนอแนะ
• เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรยาแนวกระเบื้องหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง
• เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ควรใช้กาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้องให้ทั่วแผ่น
ข้อจำกัดในการใช้
ไม่ควรใช้ปูกระเบื้องบนพื้นไม้ แผ่นแอสฟัลต์ ผนังเคลือบ พลาสติก หรือ พีวีชี โลหะ และกระจก (อย่าให้ถูกความเย็นจัดในระยะวลา 72 ชั่วโมง)
**หากต้องการปูพื้นผิวของวัสดุที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ
ข้อควรระวัง
• ผลิตภัณฑ์อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ
• ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
• ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด
• ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
• ห้ามรับประทาน
การเก็บรักษา
• ควรเก็บไว้ในที่ร่ม แห้ง ปราศจากความชื้น และมีอากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม
• อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้