ประเด็นสำคัญ
- ท่อน้ำรั่วเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์อย่างท่อน้ำ ข้อต่อเกลียวท่อ วาล์วน้ำเสื่อมสภาพ การติดตั้งไม่ถูกวิธี ทั้งต่อท่อไม่สนิท ฝังท่อโดยไม่ป้องกันแรงกดจากการเจาะ รวมถึงการกัดกร่อนจากไอเค็ม หรือแรงกระแทกจากการซ่อมแซมต่อเติมส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ที่ทำให้ท่อเสียหายได้
- การซ่อมท่อประปารั่วทำได้ด้วยการใช้เทปพันเกลียวชั่วคราวก่อนเปลี่ยนท่อน้ำใหม่ โดยเลือกใช้ท่อน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐานรับรอง รวมถึงหมั่นตรวจสอบระบบเป็นประจำ หากพบความเสียหายก็ควรให้ช่างผู้เชี่ยวชาญซ่อมแซมทันที เพื่อป้องกันน้ำรั่ว ความชื้น และเชื้อรา
ปัญหาท่อน้ำรั่วเป็นเรื่องที่ทุกบ้านจะต้องเคยเจอ ไม่ว่าจะในห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณรอบ ๆ บ้าน น้ำรั่วทำให้พื้นเปียกชื้น เกิดเชื้อรา ส่งกลิ่นอับ สร้างความเสียหายต่อผนังและโครงสร้างบ้าน ทำให้ค่าน้ำพุ่งสูง จระเข้จะพาไปดูกันว่าท่อน้ำรั่วเกิดจากอะไร แล้วถ้าจะซ่อมท่อน้ำรั่วใช้อะไรอุดถึงจะเหมาะสมที่สุด
ท่อน้ำรั่วเกิดจากสาเหตุอะไร?

| สาเหตุท่อน้ำรั่ว | รายละเอียด | รายละเอียด |
|---|---|---|
| อุปกรณ์เสื่อมสภาพ | ข้อต่อแตก เทปพันเกลียวเสื่อมสภาพ ก๊อกน้ำรั่วตามอายุการใช้งาน | เปลี่ยนชิ้นส่วนที่ชำรุด เช่น ข้อต่อ เทปพันเกลียว ก๊อกน้ำ และตรวจสอบระบบประปาโดยรวม |
| ติดตั้งไม่ถูกวิธี | ต่อท่อไม่สนิท วางท่อไม่ลาดเอียง หรือฝังท่อโดยไม่ป้องกันแรงกด | ซ่อมแซมหรือปรับการติดตั้งให้ถูกต้อง และควรใช้ช่างที่มีประสบการณ์ |
| การกัดกร่อนหรือกระแทก | พื้นที่เปียกชื้น ไอเค็มกัดกร่อนท่อ หรือการกระแทกจากภายนอก | เปลี่ยนท่อที่เสียหาย และเพิ่มการป้องกัน เช่น หุ้มท่อ หรือย้ายท่อให้พ้นจุดเสี่ยง |
| ซ่อมบำรุงไม่สม่ำเสมอ | ไม่ตรวจสอบท่อเป็นประจำ ทำให้ปัญหาเล็ก ๆ ลุกลาม | ตรวจสอบระบบน้ำทุก 1-2 เดือน และแก้ไขทันทีเมื่อพบปัญหา |
1. ท่อน้ำ เกลียวท่อ ข้อต่อเสื่อมสภาพ
ท่อและอุปกรณ์ประปาเป็นวัสดุที่มีอายุการใช้งาน เมื่อใช้งานไปนาน ๆ ก็มีโอกาสเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะบ้านที่สร้างมานานกว่า 10-15 ปี โดยจุดที่มักพบการรั่วซึม ได้แก่
- ข้อต่อและเกลียวท่อ เทปพันเกลียวท่อน้ำซึ่งอยู่ตรงข้อต่อท่ออาจเสื่อมสภาพ หมดอายุการใช้งาน ทำให้ซีลได้ไม่แน่นเต็มประสิทธิภาพ ทำให้น้ำซึมออกตามรอยเกลียว
- วาล์วน้ำ ภายในวาล์วมีชิ้นส่วนเล็ก ๆ ที่สึกหรอไปตามการใช้งาน เมื่อเสียหายจะปิดน้ำไม่สนิท ทำให้น้ำหยดต่อเนื่อง
- ท่อ PVC หรือท่อเหล็ก ท่อ PVC อาจเปราะแตกหากโดนแดดหรือความร้อนนาน ๆ ส่วนท่อเหล็กมีโอกาสเกิดสนิม กัดกร่อนจากภายในจนผุและรั่ว
2. ติดตั้งระบบประปาไม่ถูกวิธี
แม้จะเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูง แต่หากขั้นตอนการติดตั้งไม่ได้มาตรฐาน ก็มีโอกาสทำให้ท่อรั่วหรือแตกในอนาคตได้ การติดตั้งที่ผิดพลาดอาจเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ เช่น
- ต่อท่อไม่สนิท โดยเฉพาะการใช้กาวทาไม่ทั่วหรือกดท่อเข้าข้อต่อไม่สุด ทำให้เกิดช่องว่างเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นในตอนแรก เมื่อใช้ไปนาน ๆ น้ำจะเริ่มซึมออกมาและทำให้ข้อต่อเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
- ความลาดเอียงไม่เหมาะสม การวางท่อโดยไม่ได้จัดระดับความลาดเอียงตามแรงโน้มถ่วง จะมีน้ำค้างอยู่ภายใน ทำให้เกิดแรงดันสะสมส่งผลให้ข้อต่อรั่วหรือแตกเร็วขึ้น โดยเฉพาะท่อน้ำทิ้ง
- ฝังท่อในผนังโดยไม่ป้องกันแรงกด หากต้องฝังท่อในผนัง หากไม่ได้ใช้ปลอกป้องกันหรือเว้นช่องว่างที่เหมาะสม เวลาผนังเกิดการขยายตัวหรือมีการเจาะแขวนของ ท่อจะรับแรงโดยตรงและเสี่ยงต่อการแตกร้าวได้
- ขนาดใช้ท่อไม่ตรงกัน เช่น ข้อต่อหลวมเกินไปหรือแน่นเกินไป อาจทำให้เกิดการรั่ว หรือดันท่อจนเกิดรอยร้าวในอนาคต
3. การกัดกร่อนหรือกระแทกจากสภาพแวดล้อม
สภาพแวดล้อมเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ท่อน้ำรั่ว ท่อที่อยู่ในพื้นที่ชื้นตลอดเวลา หรือสัมผัสกับไอเค็ม ไอเคมี จะถูกกัดกร่อนจนผุกร่อนได้เร็วขึ้น นอกจากนี้การกระแทกโดยไม่ตั้งใจ เช่น รีโนเวตบ้านแล้วใช้สว่านเจาะโดนท่อ หรือการเดินท่อในพื้นที่ที่มีรถเหยียบผ่านบ่อย ๆ ก็ทำให้เกิดรอยร้าวและรั่วซึมตามมาได้เช่นกัน
ท่อน้ำรั่วใช้อะไรอุดดี?
1. อุดรอยรั่วด้วยเทปกาว

เทปกาวกันรั่วเป็นวิธีแก้ท่อน้ำรั่วที่สะดวกรวดเร็ว ทำเองได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เหมาะกับการแก้ปัญหารอยรั่วขนาดเล็กเฉพาะหน้าก่อนซ่อมถาวร ควรเลือกใช้เทปกาวซ่อมท่อรั่วที่ใช้แปะบนพื้นที่เปียกชื้นได้ โดยพันรอบท่อหรือข้อต่อให้แน่นก็เป็นที่เรียบร้อย
- ทำความสะอาดพื้นผิวรอบข้อต่อท่อ ใช้ผ้าสะอาดเช็ดเศษฝุ่น คราบน้ำมัน หรือสิ่งสกปรกออกให้หมด เพื่อให้เทปพันเกลียวยึดติดแน่น
- พันเทปรอบเกลียวท่อ ค่อย ๆ พันเทปให้แน่นและสม่ำเสมอ พันจนถึงขอบบนของข้อต่อ แต่ไม่ควรรัดแน่นเกินไปจนทำให้ท่อเสียหายหรือแตก
- เปิดน้ำทดลองดูว่ารอยรั่วยังคงมีน้ำซึมหรือไม่ หากยังมีให้พันเทปเพิ่มรอบจนแน่นและครอบคลุมรอยรั่วทั้งหมด
2. อุดรอยรั่วด้วยกาวอีพ็อกซี

สำหรับการซ่อมท่อ PVC กาวอีพ็อกซีถือเป็นทางเลือกที่เหมาะกับรอยรั่วขนาดเล็กถึงปานกลาง โดยเฉพาะท่อที่แตกเป็นรูหรือมีรอยร้าวเล็ก ๆ ก่อนใช้ควรทำความสะอาดและเช็ดให้แห้ง จากนั้นผสมกาวให้เข้ากันแล้วปั้นปิดรอยรั่วให้แน่น รอให้กาวเซ็ตตัวจนแข็งจึงเปิดน้ำ วิธีนี้ใช้แก้ปัญหาท่อน้ำรั่วถาวรได้หากรอยรั่วไม่ใหญ่เกินไป
3. อุดรอยรั่วด้วยแผ่นยางและแคลมป์รัดท่อ

หากต้องการซ่อมท่อน้ำรั่วที่เป็นรอยรั่วยาว ต้องใช้แรงกดเพื่อหยุดน้ำรั่ว ควรเลือกปิดรอยรั่วด้วยแผ่นยาง แล้วใช้แคลมป์โลหะรัดให้แน่น จะอุดรอยรั่วได้เบื้องต้น ก่อนจะเปลี่ยนท่อชิ้นใหม่ เพื่อความแข็งแรงทนทานในระยะยาว
4. อุดรอยรั่วด้วยซีเมนต์แห้ง

หากเจอปัญหาท่อน้ำหรือบ่อน้ำซีเมนต์ในบริเวณบ้านรั่ว ควรรีบแก้ปัญหาด้วยจระเข้ ปลั๊ก ซีเมนต์แห้งเร็ว อุดน้ำรั่ว ที่ขยายและก่อตัวได้เร็ว ช่วยกั้นน้ำรั่วไหลได้ภายใน 30 วินาที ถึง 3 นาที ทนทาน ใช้ได้กับทั้งท่อซีเมนต์ แท็งก์น้ำ บ่อน้ำ และงานคอนกรีตอื่น ๆ
จุดเด่นของจระเข้ ปลั๊กมีอะไรบ้าง?
- ออกแบบมาเพื่อใช้กับงานซ่อมเร่งด่วน มีคุณสมบัติก่อตัวเร็ว ต้านการหดตัว และแรงยึดเหนียวสูง ใช้เวลาก่อนตัว 30 วินาที ถึง 3 นาที
- ใช้ซ่อมแซมงานที่อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสได้
- ยึดเกาะกับหมุดเหล็ก (Bolts) เสา (Posts) หรือเหล็กเดือย (Dowels) ได้
วิธีใช้งานจระเข้ ปลั๊ก
- เตรียมพื้นผิว ทำความสะอาดบริเวณรอยรั่วให้ปราศจากฝุ่น คราบน้ำมัน ตะไคร่น้ำ หรือเศษวัสดุ ขัดเปิดผิวคอนกรีตให้หยาบและขยายรอยรั่วอย่างน้อย 1 นิ้วทั้งกว้างและลึก เพื่อให้ซีเมนต์ยึดเกาะและทนแรงดันน้ำได้ดี
- อัตราส่วนผสม ผสมจระเข้ ปลั๊กในอัตรา 4 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วนใช้น้ำอุณหภูมิประมาณ 21 องศาเซลเซียส เพื่อเพิ่มเวลาในการทำงาน
- ผสมให้เข้ากัน สวมถุงมือ ผสมให้เป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นให้รูปทรงใกล้เคียงรอยรั่ว ระยะเวลาผสมไม่เกิน 2 นาที และห้ามเติมน้ำเพิ่มหากส่วนผสมแข็งตัวเกิน 3 นาที
- อุดซีเมนต์ อุดซีเมนต์ลงรอยรั่วทันที กดให้แน่นด้วยมือหรือเกรียง กดค้างอย่างน้อย 30–60 วินาที (หรือ 2–3 นาทีหากน้ำไหลแรง) แล้วขูดส่วนเกินออก เริ่มอุดจากด้านบนแล้วไล่ลงล่างสำหรับรอยรั่วแนวดิ่ง
วิธีป้องกันท่อน้ำรั่วแบบถาวรต้องทำอย่างไรบ้าง?
1. เปลี่ยนข้อต่อหรือท่อที่ชำรุดทันที

หากพบว่าข้อต่อหรือท่อมีรอยรั่วชัดเจน ควรเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายทันที โดยควรเลือกท่อและข้อต่อที่เข้ากับระบบเดิมและติดตั้งให้แน่น
2. ตรวจสอบระบบน้ำสม่ำเสมอ

นอกจากการซ่อมท่อน้ำรั่วแล้ว การตรวจสอบระบบประปาเป็นประจำ จะช่วยให้พบปัญหาเล็ก ๆ ก่อนที่จะกลายเป็นปัญหารั่วซึมใหญ่ โดยวิธีตรวจสอบเบื้องต้นทำได้ดังนี้
- เช็กมิเตอร์น้ำ ปิดก๊อกน้ำทุกจุดและสังเกตมิเตอร์น้ำ หากเข็มมิเตอร์ยังหมุนอยู่หรือค่าเพิ่มขึ้น แสดงว่ามีการรั่วซึม
- สังเกตรอยน้ำซึม ตรวจดูบริเวณท่อทั้งใต้ซิงก์ ฝ้าเพดาน หรือผนังที่ฝังท่อ หากพบคราบน้ำ คราบความชื้น หรือสีผนังเปลี่ยนแปลง เป็นสัญญาณว่าท่อน้ำรั่ว
- ฟังเสียงน้ำไหล หากได้ยินเสียงน้ำไหลอย่างต่อเนื่องแม้ปิดก๊อกน้ำทั้งหมด แสดงว่ามีท่อรั่วอยู่ภายในบ้าน อาจต้องเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ
3. เลือกใช้ท่อและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ

การเลือกท่อและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันปัญหาท่อน้ำรั่วในระยะยาว โดยควรเลือกอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม หรือ มอก. ที่ทนทานต่อแรงดันและสภาพอากาศต่าง ๆ
4. ให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบ

สำหรับท่อที่ฝังในผนัง เพดาน หรืออยู่ใต้พื้น การตรวจสอบอาจไม่แม่นยำเท่าที่ควร ควรเรียกช่างประปาผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบ จะช่วยระบุตำแหน่งและซ่อมท่อน้ำรั่วได้อย่างชัดเจน ลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากการเจาะหรือซ่อมท่อด้วยตนเอง
สัญญาณบอกว่าท่อน้ำรั่วมีอะไรที่สังเกตเห็นได้บ้าง?
1. ค่าน้ำสูงผิดปกติ ทั้งที่ใช้น้ำเท่าเดิม

หากปริมาณการใช้น้ำในบ้านเท่าเดิม แต่ค่าน้ำกลับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 1–2 เดือน อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่ามีระบบประปาอาจรั่วซึม ให้ตรวจสอบเบื้องต้นด้วยการปิดก๊อกน้ำทุกจุด และสังเกตของมิเตอร์น้ำ หากเข็มมิเตอร์ยังคงหมุนอยู่ แสดงว่ามีการรั่วซึมที่ควรตรวจสอบโดยด่วน
2. มีเสียงน้ำไหลทั้งที่ไม่ได้เปิดน้ำ

หากในบ้านมีเสียงน้ำไหลทั้งที่ปิดก๊อกหมดทุกจุดแล้ว ถือเป็นอีกสัญญาณที่บอกว่ามีท่อน้ำรั่วในบ้าน โดยเฉพาะท่อที่ฝังอยู่ในผนังหรือใต้พื้น หากได้ยินเสียงน้ำไหล ควรตรวจสอบหรือเรียกช่างผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบทันที เพราะถ้าปล่อยไว้อาจทำให้โครงสร้างเสียหายและเกิดเชื้อราได้
3. คราบน้ำ คราบเชื้อรา ตามผนัง เพดาน

สำหรับคราบน้ำบนผนังหรือเพดานที่เกิดขึ้นโดยไม่มีสาเหตุ เช่น คราบเหลือง คราบน้ำหยด คราบราดำหรือเชื้อราขึ้นตามมุมผนัง มักเกิดจากท่อน้ำรั่วอยู่ด้านในโครงสร้าง ความชื้นที่สะสมจะทำให้บ้านดูสกปรก และเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพ เช่น ภูมิแพ้และโรคทางเดินหายใจ
4. กลิ่นอับ ทำความสะอาดแล้วไม่หาย

กลิ่นอับชื้นภายในบ้านที่กำจัดเท่าไรก็ไม่หายไป แม้จะทำความสะอาดอย่างเต็มที่แล้ว อาจเกิดจากท่อน้ำรั่ว ทำให้น้ำสะสมอยู่ในผนัง เพดาน รวมถึงใต้พื้น เมื่อความชื้นสะสมเป็นเวลานาน จะเกิดเชื้อราและแบคทีเรียสะสม ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้านด้วย
5. กระเบื้องมีน้ำซึม เป็นรอยคราบน้ำ

หากพบว่ากระเบื้องพื้นหรือผนังมีน้ำซึมออกมา มีรอยน้ำตามจุดต่าง ๆ อาจเป็นสัญญาณของท่อน้ำรั่วภายในโครงสร้าง และหากปล่อยไว้นาน ความชื้นจะทำให้กาวซีเมนต์เสื่อมสภาพ เกิดปัญหากระเบื้องโป่งพองหรือระเบิด ทำให้ต้องรื้อซ่อมกันใหม่
ผลเสียจากการปล่อยให้ท่อน้ำรั่วเป็นเวลานาน

1. โครงสร้างบ้านเสียหาย
น้ำรั่วที่สะสมเป็นเวลานานจะซึมเข้าสู่ผนัง พื้น และโครงสร้างหลักของบ้านได้ ทำให้วัสดุก่อสร้างเสื่อมสภาพ เช่น กระเบื้องระเบิด สีลอกล่อน ปูนฉาบหลุดล่อน ไม้ผุกร่อน หรือเหล็กโครงสร้างเกิดสนิม หากไม่รีบซ่อมแซม อาจทำให้บ้านทรุดหรือแตกร้าว และส่งผลต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของบ้านโดยรวม
2. เชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เป็นอันตรายต่อร่างกาย
ความชื้นจากท่อน้ำรั่วเป็นแหล่งสะสมของเชื้อรา แบคทีเรีย ทำให้เกิดกลิ่นอับและส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้าน เช่น การสูดดมสปอร์ของเชื้อราอาจทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ ไอ จาม หรือปัญหาทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุ
3. ความเสี่ยงต่อไฟฟ้าลัดวงจร
น้ำที่รั่วซึมจากท่อน้ำอาจสัมผัสกับสายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะระบบที่ฝังอยู่ในผนังหรือโครงสร้างบ้าน มีโอกาสทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรและเพิ่มความเสี่ยงต่อไฟไหม้ได้ อันตรายต่อทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
สั่งผลิตภัณฑ์จระเข้สะดวกกว่าเดิมด้วย Jorakay Online Shop
เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพจากจระเข้ ได้สะดวกยิ่งขึ้นผ่าน Jorakay Online Shop ร้านค้าอย่างเป็นทางการจากจระเข้ ที่พร้อมให้ทุกคนสั่งซื้อสินค้าครบ จบในคลิกเดียว บน Shopee และ Lazada ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เลือกสินค้าที่ต้องการได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว คุ้มค่า
| ช่องทางการสั่งซื้อ | ลิงก์สำหรับการสั่งซื้อ |
|---|---|
| สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ | |
| สั่งซื้อที่ Shopee | |
| สั่งซื้อที่ Lazada |
อยากได้ผลิตภัณฑ์จระเข้มาดูแลบ้าน ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันได้ที่เว็บไซต์จระเข้ เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราดูก่อนก็ได้ ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์บ้านของเรามากที่สุด




