ประเด็นสำคัญ
- สีกำแพงบ้านควรเลือกประเภทสีให้เหมาะกับการใช้งาน สีภายนอกต้องทนแดด ทนฝน ป้องกันเชื้อราและตะไคร่น้ำ ส่วนสีภายในควรระบายอากาศได้ดี ทำความสะอาดง่าย และปลอดภัยต่อสุขภาพ
- นอกจากประเภทควรเลือกเฉดสีทากำแพงให้เข้ากับสไตล์บ้าน สีโทนอ่อนช่วยให้บ้านดูกว้างและโปร่ง สีโทนเข้มเพิ่มความโดดเด่น เลือกจับคู่สีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์และธีมการตกแต่ง เพื่อให้บ้านดูสวยลงตัวและน่าอยู่
การเลือกสีทากำแพงบ้านไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องการออกแบบและสไตล์ที่ชอบเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับความทนทาน และการดูแลในระยะยาว จระเข้จะพาทุกคนไปดูวิธีเลือกสีทากำแพงบ้านว่าควรเลือกอย่างไรให้เหมาะสม พร้อมเทคนิคทาสีให้ติดแน่น ทนนาน ใช้งานได้ยาวนาน
สีทาภายใน vs. สีทาภายนอก แตกต่างกันอย่างไร
หัวข้อ | สีทาภายนอก | สีทาภายใน |
---|---|---|
คุณสมบัติ | ทนแดด ทนฝน ป้องกันเชื้อราและความชื้น ไม่ซีดจางเร็ว | กลิ่นน้อย แห้งไว ปลอดสารอันตราย ทำความสะอาดง่าย |
การใช้งาน | เหมาะสำหรับผนังภายนอก สีทากำแพงบ้าน ที่สัมผัสแดดและฝน | เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องครัว |
ความทนทาน | ทนต่อสภาพอากาศ ฝุ่นละออง และรังสียูวี | ทนต่อรอยเปื้อนและการเช็ดล้างได้ดี |
ตัวอย่างประเภทสี | สีอะคริลิกชนิดพิเศษ สีกันเชื้อรา สีสะท้อนความร้อน สีซีเมนต์หรือหินปูนธรรมชาติ | สีน้ำอะคริลิก สีน้ำพลาสติก สีซีเมนต์หรือหินปูนธรรมชาติ |
เลือกสีทากำแพงบ้านอย่างไรให้เหมาะกับแบบที่ชอบ
1. สีโทนอุ่นและสีโทนเย็น
“สีโทนร้อนเสริมพลังสดใส สีโทนเย็นบรรยากาศสงบ”
การเลือกสีทากำแพงบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของความสวยงาม แต่ยังส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกของผู้ที่อยู่ในบ้านด้วย หากเลือกสีที่เหมาะสม จะช่วยให้บ้านดูโดดเด่น น่าอยู่ และเข้ากับสไตล์การตกแต่งโดยรวม โดยการแบ่งโทนสีหลัก ๆ เป็นสีโทนร้อนและสีโทนเย็น
- สีโทนร้อน เช่น สีเหลือง สีครีม สีส้ม สีแดง และสีน้ำตาล ให้ความรู้สึกอบอุ่น มีพลัง และกระตุ้นความรู้สึกสดใส เหมาะกับบ้านที่ต้องการบรรยากาศเป็นกันเอง เช่น บ้านสไตล์วินเทจหรือบ้านไม้
- สีโทนเย็น เช่น สีฟ้า สีเขียว สีเทา และสีม่วง ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย และช่วยให้บ้านดูเย็นสบาย เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น สไตล์มินิมอล หรือบ้านที่ต้องการสร้างบรรยากาศเงียบสงบ
2. สีที่ช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้น
“เลือกสีอ่อนทำให้ห้องโล่งโปร่ง”
หากต้องการให้พื้นที่ดูกว้างและโปร่งขึ้น ควรเลือกสีทากำแพงบ้านที่ช่วยสะท้อนแสงและเพิ่มความสว่างให้กับพื้นที่ โดยเลือกใช้สีโทนอ่อน เช่น สีขาว สีเบจ สีครีม สีเทาอ่อน หรือสีพาสเทล เพื่อช่วยกระจายแสงทำให้พื้นที่ดูโล่ง โปร่งขึ้น หรือจะลองใช้เทคนิคทาสีแบบ Ombre ไล่เฉดสี โดยทาสีขาวที่ด้านบนไล่ลงมาสีเข้มด้านล่าง จะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้ผนังบ้านไม่ดูเรียบจนเกินไป
3. จับคู่สีให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งภายใน
สีกำแพงบ้านควรเข้ากับธีมการตกแต่งภายในและเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้บ้านดูมีเอกลักษณ์และลงตัว โดยบ้านแต่ละสไตล์ก็มีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป ควรเลือกใช้สีทากำแพงบ้าน ดังต่อไปนี้
- บ้านสไตล์มินิมอล เหมาะกับสีขาว สีครีม สีเทา หรือสีเอิร์ธโทน ที่ช่วยให้บรรยากาศอบอุ่น และเข้ากับพื้นและเฟอร์นิเจอร์ไม้อีกด้วย
- บ้านสไตล์ลอฟท์ ต้องการลุคดิบเท่ เน้นสีสันของวัสดุไม้ เหล็ก ปูน ควรเลือกทาสีเทา สีดำ สีน้ำตาล โดยอาจเลือกเป็นโทนอ่อนเล็กน้อยจะช่วยให้ภาพรวมสบายตาขึ้น
- บ้านสไตล์โมเดิร์น เหมาะกับสีโมโนโทน เน้นความทันสมัยเป็นหลัก เช่น สีขาว สีเทา สีดำ หรือตัดด้วยสีสดใส เช่น สีน้ำเงินเข้ม หรือสีแดง
- บ้านสไตล์วินเทจ มักจะเน้นตกแต่งให้บรรยากาศอบอุ่นแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มักใช้สีพาสเทล เช่น สีฟ้าอ่อน สีเขียวมิ้นต์ หรือสีชมพูอ่อน เพื่อให้บ้านดูอบอุ่นและมีเสน่ห์
เคล็ดลับ: ควรใช้วงล้อสีเพื่อเลือกสีที่เข้ากันมากยิ่งขึ้น เช่น
- สีตรงข้ามกัน เช่น สีน้ำเงิน-ส้ม หรือ สีเขียว-แดง ช่วยให้บ้านดูมีพลัง
- สีโทนเดียวกัน เช่น สีฟ้า-น้ำเงิน หรือ สีเบจ-น้ำตาล ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบและสบายตา
ประเภทของสีทากำแพงบ้าน และข้อดี-ข้อเสียของแต่ละแบบ
1. สีอะคริลิก
สีอะคริลิกเป็นสีทากำแพงบ้านที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมาก มีทั้งแบบสีทาภายในและสีทาภายนอก ผลิตจากอะคริลิก 100% ผสมด้วยสารพิเศษอื่น ๆ เพื่อให้ยึดเกาะได้ดีขึ้น ยืดหยุ่นสูงและทนต่อสภาพอากาศได้ดี ส่วนใหญ่มักใช้กับงานปูนฉาบ คอนกรีต และกระเบื้องแผ่นเรียบ
ข้อดี
- ใช้งานสะดวก แห้งเร็ว ประหยัดเวลาตกแต่ง
- สีสดและมีเฉดสีหลากหลาย ตามสไตล์ตกแต่งที่ต้องการ
- เนื้อสียืดหยุ่น ผิวสัมผัสเรียบเนียน ยึดเกาะกับผิวปูนได้ดี
ข้อเสีย
- ไม่เหมาะกับพื้นผิวที่ต้องการความเงางาม เช่น โลหะ
- ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงมากเป็นพิเศษ อาจไม่ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนรุนแรง
เฉดสีเยอะ ทำความสะอาดง่ายต้อง สีจระเข้ กราฟคลีน พรีเมี่ยม
สีจระเข้ กราฟคลีน พรีเมี่ยม เป็นสีอะคริลิกเกรดพรีเมี่ยม ทาได้ทั้งภายในและภายนอก ปราศจากสารระเหย (Zero VOCs) และสารก่อมะเร็ง ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอก โดยมีเทคโนโลยีกราฟีน ช่วยให้สีมียืดหยุ่นสูง มีเฉดสีให้เลือกเยอะมากกว่า 980 สีสำหรับทาภายใน และ 322 สีสำหรับภายนอก อีกทั้งยังทำความสะอาดง่าย ช่วยให้บ้านสวยงามและดูใหม่อยู่เสมอ
- ใช้ได้กับพื้นผิวหลากหลาย เช่น ปูนฉาบ อิฐ คอนกรีต และไม้ ทาแล้วไม่ลอกล่อน
- ไม่มีสารระเหย (Zero VOCs) และปราศจากสารก่อมะเร็ง (Non-Formaldehyde) ลดความเสี่ยงต่อปัญหาทางเดินหายใจ
- เหมาะสำหรับทั้งงานทาใหม่และงานรีโนเวต เปิดใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง
- ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อโรคบนผนัง เพิ่มความสะอาดและสุขอนามัย
2. สีน้ำมัน
สีน้ำมันเป็นสีที่ผลิตจากสารเรซิน มีน้ำมันเป็นตัวทำละลาย ทำให้มีเนื้อสีที่เข้มข้นและเงางาม เมื่อทาแล้วจะมีลักษณะเหมือนกับฟิลม์เคลือบพื้นผิวให้เงางาม นิยมใช้ทาไม้ เหล็ก หรือโลหะต่าง ๆ มากกว่าผนังปูน เพราะปกป้องพื้นผิวจากความชื้นและการกัดกร่อนได้ดี
ข้อดี
- พื้นผิวเรียบเนียน เงางาม ทำความสะอาดง่าย
- ทนทานต่อรอยขีดข่วนและการกระแทก เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการพื้นผิวแข็งแรง
- กันน้ำและกันความชื้นได้ดี ช่วยป้องกันเชื้อรา
ข้อเสีย
- มีสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และยังแห้งช้า
- อาจลอกล่อน เมื่อเจอแสงแดดและความร้อนเป็นประจำ
3. สีซีเมนต์หรือหินปูนธรรมชาติ
สีซีเมนต์หรือสีหินปูนเป็นสีที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ จึงเป็นมิตรต่อทั้งผู้อยู่อาศัยและสิ่งแวดล้อม อีกทั้งหากเป็นสีหินปูนธรรมชาติที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีทันสมัย ก็จะยิ่งมีความแข็งแกร่ง ทนทาน ช่วยระบายความชื้นได้ดี ลดปัญหาการลอกล่อนและการโป่งพองของสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี
- เนื้อสีเรียบเนียน ยึดเกาะกับพื้นผิวได้ดี
- ระบายความร้อนได้ดี ช่วยลดอุณหภูมิในบ้าน
- ไม่มีสารระเหยที่เป็นอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว
ข้อเสีย
- ราคาสูงแต่ทนทานยาวนานมากกว่า 15 ปี จึงคุ้มค่าต่อการลงทุน
สีทากำแพงบ้านรักษ์โลก ต้องสีจระเข้ Natural Color
สีจระเข้ Natural Color สีทาบ้านรักษ์โลก ที่ผลิตจากหินปูนธรรมชาติ 100% ผสานเทคโนโลยีกราฟีนที่ช่วยเพิ่มแรงยึดเกาะ จึงปลอดภัยต่อสุขภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีให้เลือกทั้งแบบใช้ภายนอกและภายใน ทุกสูตรปราศจากสารก่อมะเร็งและช่วยลดมลพิษในบ้าน
- ไม่มีกลิ่นของสารระเหย (Zero VOCs) และปราศจากสารก่อมะเร็ง (Non-Formaldehyde) ปลอดภัยกับสุขภาพ
- แห้งเร็ว เปิดใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง ใช้ได้กับทั้งงานทาใหม่และงานปรับปรุง
- ป้องกันการเกิดเชื้อรา และตะไคร่น้ำ ช่วยป้องกันการเกิดแบคทีเรียและเชื้อโรคต่าง ๆ บนผนัง
- ยึดเกาะแน่น ทาแล้วเรียบเนียน ใช้ได้กับหลายพื้นผิว ทั้งปูนฉาบ อิฐ คอนกรีต และไม้
- เนื้อสีมีคุณสมบัติความเป็นด่าง จึงผสานกับผิวปูนได้ดี ผนังฉาบใหม่ไม่ต้องทาสีรองพื้น
สีทาภายนอก ทนทุกสภาพอากาศ ต้องสีจระเข้ ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม
สีจระเข้ ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม เป็นสีทาภายนอกที่ผลิตจาก Lime Base หรือหินปูนธรรมชาติ มีให้เลือกกว่า 24 เฉดสี ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะเวลาแห้งตัว ลดมลพิษทางอากาศ เนื้อสีมีความยืดหยุ่น ยึดเกาะพื้นผิวได้ดี ลดการแตกร้าว และสามารถทาได้โดยไม่ต้องใช้สีรองพื้น อีกทั้งยังสะท้อนความร้อน ช่วยให้บ้านเย็นขึ้นอีกด้วย
เทคนิคการทาสีกำแพงให้เรียบเนียน ติดทนนาน
1. เตรียมพื้นผิวก่อนทาสี
เมื่อจะทาสีกำแพงบ้าน ควรเริ่มต้นด้วยการทำความสะอาดพื้นผิว เพื่อกำจัดฝุ่น คราบสกปรก และเชื้อรา หากเป็นผนังเก่าที่มีสีหลุดลอก ควรใช้เกรียงขูดสีเก่าออกก่อน ใช้กระดาษทรายขัดให้พื้นผิวเรียบ และซ่อมแซมรอยแตกร้าวด้วยวัสดุอุดรอยรั่ว เช่น อะคริลิกซีลแลนท์ หรือปูนฉาบสำเร็จรูป จะช่วยให้สีจะยึดเกาะได้ดีขึ้น ลดโอกาสเกิดลอกล่อนในอนาคต
2. อุปกรณ์ที่จำเป็นในการทาสี
อุปกรณ์ที่เหมาะสมจะช่วยให้ทาสีได้ง่ายขึ้น นอกจากจะทำงานได้อย่างสะดวกสบายขึ้นแล้ว ยังทำให้สีสันสวยงามเรียบเนียนด้วย โดยอุปกรณ์ที่ควรเตรียมก่อนทาสีกำแพงบ้าน ได้แก่
- ลูกกลิ้งทาสี สำหรับพื้นที่กว้าง แปรงทาสีสำหรับเก็บขอบและมุมเล็ก ๆ ควรเลือกอุปกรณ์คุณภาพดี จะช่วยให้สีเรียบเนียน และลดปัญหาสีเป็นริ้วหรือไม่สม่ำเสมอ
- ถาดรองสี เพื่อช่วยให้สีติดลูกกลิ้งอย่างสม่ำเสมอ
- เทปกาวเพื่อป้องกันสีเลอะบริเวณที่ไม่ต้องการทา เช่น บัวผนัง
- อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ช่วยให้ทาสีกำแพงบ้านได้สะดวก เช่น แผ่นพลาสติกกันสีเลอะเทอะ บันไดหรือนั่งร้านสำหรับจุดที่อยู่สูง
3. วิธีทาสีให้เรียบเนียน ไม่มีรอยแปรง
การทาสีที่ถูกต้องควรใช้เทคนิค W หรือ M โดยเริ่มจากการใช้ลูกกลิ้งจุ่มสี แล้วกลิ้งเป็นรูปตัว W หรือ M เพื่อกระจายสีให้ทั่วก่อน จากนั้นค่อยเกลี่ยสีให้เรียบเสมอกัน ไม่ควรใช้สีมากเกินไปในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้เกิดรอยหยดหรือเป็นคลื่น หากจะใช้แปรงทาสี ควรทาด้วยจังหวะเบามือและไปในทิศทางเดียวกัน
4. เคล็ดลับการเลือกสีแบบไม่ต้องใช้สีรองพื้น
หากต้องการลดขั้นตอนทาสีกำแพงบ้าน สามารถเลือกใช้ที่มีเนื้อสีเนียน ปกปิดได้ดี อย่างสีจระเข้ ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม และสีจระเข้ กราฟคลีน พรีเมี่ยม ซึ่งทาลงบนผนังปูนใหม่ได้เลย โดยไม่ต้องใช้สีรองพื้น นอกจากช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายแล้ว ยังให้สีที่ติดทนนานและทนต่อสภาพอากาศได้ดีอีกด้วย
5. การทาสีเป็นชั้น ๆ เพื่อเพิ่มความสม่ำเสมอ
ไม่ว่าจะเป็นผนังฉาบใหม่ หรือผนังเก่าที่ซ่อมแซมเรียบร้อยพร้อมจะทาสีใหม่ ก็ควรทาสีอย่างน้อย 2 รอบ โดยเว้นช่วงให้สีแต่ละชั้นแห้งสนิทก่อนทาทับ วิธีนี้จะช่วยให้สีเรียบเนียน ลดรอยด่าง และช่วยให้สีทนทานมากขึ้น
จบปัญหาในบ้าน จุดไหนจระเข้ก็พร้อมเป็นตัวช่วย
อยากได้ผลิตภัณฑ์จระเข้มาดูแลบ้าน ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันได้ที่เว็บไซต์จระเข้ เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราดูก่อนก็ได้ ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์บ้านของเรามากที่สุด
จระเข้ ช้อปออนไลน์ได้แล้ววันนี้ สะดวก ง่าย ช้อปได้ทุกที่ทุกเวลา
ช่องทางการสั่งซื้อ | ลิงก์สำหรับการสั่งซื้อ |
---|---|
ช้อปผ่านเว็บไซต์ | |
ช้อปที่ Shopee | |
ช้อปที่ Lazada |