ประเด็นสำคัญ
- วิธีทำให้บ้านเย็นทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นปรับปรุงโครงสร้างและวัสดุ โดยใช้ฉนวนกันความร้อน เลือกสีบ้านโทนอ่อน ติดตั้งกันสาด ฟิล์มกรองแสง และเลือกหลังคาที่สะท้อนความร้อนเพื่อลดการสะสมความร้อนภายในบ้าน
- นอกจากการปรับปรุงโครงสร้างแล้ว ยังเลือกเพิ่มธรรมชาติและการระบายอากาศได้ โดยปลูกต้นไม้รอบบ้าน เพิ่มแหล่งน้ำ ออกแบบช่องลมให้ลมถ่ายเทสะดวก ใช้วัสดุปูพื้นที่ช่วยลดความร้อน และปรับแต่งภายในบ้านให้โล่งโปร่งเพื่อให้ลมไหลเวียนได้ดี
อากาศร้อนอบอ้าวเป็นปัญหาใหญที่เจอกันทุกบ้าน ถ้าจะให้เปิดแอร์ตลอด 24 ชั่วโมง ก็คงจะจ่ายค่าไฟกันไม่ไหว การทำให้บ้านเย็นลงตั้งแต่การออกแบบ เลือกวัสดุจึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่ช่วยให้บรรยากาศในบ้านน่าอยู่ อากาศถ่ายเทได้สะดวก จระเข้จึงมี 10 วิธีทำให้บ้านเย็นมาฝากทุกคนกัน ลดแสงแดด ลดความร้อนที่เข้าสู่บ้าน ก็ช่วยประหยัดไฟได้เป็นเท่าตัว
10 วิธีให้บ้านเย็นขึ้นแบบประหยัดไฟ บ้านไหนร้อนไม่ควรพลาด
1. ใช้ฉนวนกันความร้อน

“ฉนวนกันความร้อนติดตั้งได้ทั้งหลังคา ผนัง รวมถึงพื้น”
ฉนวนกันความร้อนถือเป็นวิธีทำให้บ้านเย็นที่สะดวกสบาย ติดตั้งได้หลายที่ ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ผนัง หรือแม้แต่ใต้พื้น ซึ่งจะช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้อุณหภูมิภายในลดลงได้ เครื่องปรับอากาศก็ทำงานน้อยลง ส่งผลให้ประหยัดค่าไฟฟ้าตามไปด้วย โดยฉนวนกันความร้อนมีหลายประเภท ได้แก่
- ฉนวนใยแก้ว ทำจากเส้นใยแก้ว ป้องกันความร้อนและดูดซับเสียงดี ราคาประหยัดและติดตั้งได้สะดวก นิยมใช้กับผนังบ้านและใต้หลังคา
- ฉนวนโฟมโพลีสไตรีน น้ำหนักเบา ไม่ดูดซับน้ำ ทนความชื้นดี มักใช้ในผนัง หลังคา และพื้นเพื่อลดความร้อน
- ฉนวนโฟมพอลิยูรีเทน (PU Foam) ฉีดพ่นได้อย่างไร้รอยต่อ มีค่ากันความร้อนสูงสุด เหมาะกับหลังคาและผนัง
- ฉนวนใยหิน ผลิตจากหินบะซอลต์และหินปูน ลักษณะเหมือนกับใยขนสัตว์ ป้องกันเสียง ทนไฟสูง ป้องกันการลามไฟ เหมาะกับอาคารอุตสาหกรรม
- แผ่นสะท้อนความร้อน เป็นแผ่นอลูมิเนียม ช่วยสะท้อนความร้อนออกจากหลังคา มักใช้ร่วมกับฉนวนอื่นเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
2. เลือกสีทาบ้านโทนอ่อน

“เลือกใช้สีโทนอ่อน สะท้อนความร้อนได้ดีกว่า”
การเลือกสีทาภายนอกบ้านมีผลต่อการสะท้อนหรือดูดซับความร้อน เป็นอีกวิธีทำให้บ้านเย็นได้ โดยควรเลือกใช้โทนสีอ่อน เช่น สีขาว สีครีม หรือสีพาสเทล จะช่วยสะท้อนแสงแดดได้ดี ลดการสะสมความร้อนบนผนังและหลังคา ช่วยลดอุณหภูมิภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการใช้สีทาบ้านโทนสีเข้ม เช่น สีดำ สีน้ำตาล เพราะจะดูดซับความร้อนมากขึ้น ทำให้ภายในบ้านร้อนกว่าเดิม
เลือกสีทาบ้านลดความร้อน ปลอดภัย ต้องสีจระเข้ Natural Color

สีจระเข้ Natural Color สีทาบ้านที่ปลอดภัยที่สุดที่มาจากธรรมชาติ 100% ผลิตจากหินปูนธรรมชาติ ทำให้ถ่ายเทความร้อน ระบายความชื้นได้ดี ลดอุณหภูมิภายในอาคาร ลดปัญหาสีลอกล่อน สีโป่งพอง ใช้ได้ทั้งงานทาสีใหม่และงานซ่อมแซมรีโนเวทต่าง ๆ และยังใช้เพิ่มคะแนนรับรองมาตรฐานอาคารเขียวได้อีกด้วย
- ปลอดภัยเพราะไม่มีกลิ่นของสารระเหย (Zero VOCs) และปราศจากสารก่อมะเร็ง (Non-Formaldehyde)
- เทคโนโลยีกราฟีน นวัตกรรมคาร์บอนกราไฟต์ระดับนาโน แข็งแกร่งสูงกว่าเหล็ก แต่ยืดหยุ่นได้ดี ทำให้เนื้อสีเนียนปกปิดดี พร้อมระบายความชื้น ไม่ลอกล่อน
- ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะเวลาแห้งตัว ช่วยลดปัญหาภาวะโลกร้อน
- ยึดเกาะพื้นผิวและยืดหยุ่นได้ดี ปกปิดรอยแตกร้าวขนาดเล็กได้ดี
- ทนต่อทุกสภาพอากาศ มลภาวะและรังสียูวี ป้องกันการเกิดเชื้อราตะไคร่น้ำ
- เนื้อสีมีคุณสมบัติความเป็นด่าง จึงผสานกับผิวปูนใหม่ได้ดี จึงไม่ต้องทาสีรองพื้น
- ใช้เพิ่มคะแนนในการรับรองมาตรฐานอาคารเขียว LEED, WELL, TREES
สีภายนอก ทนฝน ทนแดด ต้องสีจระเข้ ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม


สีจระเข้ ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม ดีอย่างไร?
- สีทาภายนอกชนิดด้าน ผลิตจากหินปูนธรรมชาติ ผสมผสานเทคโนโลยีกราฟีน
- มีให้เลือกมากกว่า 24 เฉดสี
- เนื้อสีเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ สบายตา ไม่สะท้อนแสง
- ถ้าหากเป็นพื้นผิวฉาบใหม่ หรือพื้นผิวที่พร้อมสำหรับทาสีอยู่แล้ว ก็ทาได้เลยโดยไม่ต้องทารองพื้นก่อน ช่วยประหยัดงบประมาณค่าแรงและค่าอุปกรณ์ได้อีกทางหนึ่ง
ชมรายละเอียดสีจระเข้ ไบโอสเฟียร์ พรีเมี่ยม
สีทาภายในปลอดภัยจากสารระเหยต้อง สีจระเข้อีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม

สีจระเข้อีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม ดีอย่างไร?
- สีทาบ้านชนิดด้าน ใช้สำหรับทาตกแต่งภายในโดยเฉพาะ
- ผลิตจากหินปูนธรรมชาติ 100% ปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยและช่างทาสี
- มีให้เลือกมากถึง 50 เฉดสี ตามสไตล์การตกแต่งที่ต้องการ
- เปิดใช้งานได้เร็วเข้าอยู่ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
- ตอบโจทย์ทั้งบ้านที่ตกแต่งใหม่ หรืองานซ่อมแซมต่าง ๆ
ชมรายละเอียดสีจระเข้ อีโคสเฟียร์ พรีเมี่ยม
3. ปลูกต้นไม้รอบบ้าน

“ต้นไม้ช่วยกรองแสงแดด เพิ่มบรรยากาศร่มรื่น”
การปลูกต้นไม้ใหญ่เป็นวิธีทำให้บ้านเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ กิ่งก้านและใบไม้ช่วยกรองแสงแดด ลดความร้อนที่กระทบตัวบ้านโดยตรง พร้อมทั้งเพิ่มความชื้นในอากาศ ทำให้บรรยากาศรอบบ้านเย็นขึ้น ควรเลือกปลูกต้นไม้ใหญ่ทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ของบ้าน เพื่อบังแดดในช่วงบ่ายซึ่งเป็นเวลาที่ร้อนที่สุด
- ต้นปีบ เป็นไม้ยืนต้นสูง แตกกิ่งเป็นพุ่มโปร่ง ให้ร่มเงาดี ปลูกง่าย โตเร็ว และทนแล้ง มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เมื่อออกดอก
- ต้นราชพฤกษ์ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่พบเห็นได้บ่อย ลักษณะเด่นที่ดอกสีเหลืองสวยงาม ต้นสูงใหญ่ 15-20 เมตร และยังถือเป็นต้นไม้มงคลเสริมความเจริญรุ่งเรืองด้วย
- ต้นพะยอม ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ให้ร่มเงาได้ดี ความสูงเฉลี่ยถึง 15-30 เมตร มีดอกสีขาวหอม นิยมปลูกในสวนบ้านหรือริมถนน
นอกจากต้นไม้ทั้งสามชนิดที่จระเข้ยกตัวอย่างมานี้ ยังมีต้นไม้ใหญ่อีกหลายชนิดที่เหมาะจะนำมาปลูกภายในบริเวณบ้าน ให้ความร่มรื่นและมีดอกไม้สวย ๆ ประดับสวนในบ้านด้วย สามารถอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ 10 ต้นไม้ใหญ่ปลูกในบ้าน พร้อมข้อควรรู้ก่อนปลูกต้นไม้ใหญ่ในบ้าน
4. เพิ่มแหล่งน้ำรอบบ้าน

“บ่อปลา น้ำพุ ช่วยให้บรรยากาศรอบบ้านเย็นลง”
น้ำตัวช่วยดูดซับและระเหยความร้อน ทำให้อุณหภูมิรอบบ้านเย็นลง การเพิ่มแหล่งน้ำรอบ ๆ บ้าน เช่น บ่อน้ำ บ่อปลา น้ำพุ หรือสระน้ำขนาดเล็กภายในบริเวณบ้าน จะช่วยลดความร้อนสะสมในอากาศ เหมาะกับบ้านที่ต้องการวิธีทำให้บ้านเย็นสบาย
5. ติดฟิล์มกรองแสง ม่านกันแดด

“ติดฟิล์มกรองแสง ลดความร้อน ลดรังสี UV เข้าบ้าน”
ประตู หน้าต่าง กระจกถือเป็นจุดที่ความร้อนเข้าสู่บ้านได้ง่ายที่สุด โดยเฉพาะบ้านที่มีกระจกอยู่หลายจุด การติดฟิล์มกรองแสงจะช่วยลดความร้อนและรังสี UV ที่เข้ามาในบ้าน ทำให้บ้านเย็นขึ้น โดยอาจติดฟิล์มกรองแสงร่วมกับม่านกันแดดหรือมู่ลี่ จะช่วยลดแสงและความร้อนได้ดีโดยเฉพาะในช่วงบ่าย
6. ติดตั้งกันสาด

“ติดตั้งกันสาดเพิ่มเติม ป้องกันความร้อน ป้องกันฝนสาด”
กันสาดเป็นอีกส่วนประกอบของบ้านที่ช่วยป้องกันแสงและความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้ผนังและหน้าต่างไม่สะสมความร้อนมากจนเกินไป การติดกันสาดเพิ่มเติมจึงช่วยทำให้บ้านเย็นได้ และนอกจากจะช่วยลดความร้อนแล้ว กันสาดยังช่วยป้องกันฝนสาดเข้าบ้าน ที่อาจก่อให้เกิดความชื้นสะสมในผนัง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อโครงสร้างภายในได้อีกด้วย
สำหรับบ้านไหนที่มีแผนติดตั้งหรือต่อเติมกันสาด ยังไม่รู้ว่าควรจะเลือกแบบไหน ใช้วัสดุอะไร อ่านความรู้ดี ๆ กันต่อได้ที่ กันสาดบ้าน เลือกแบบไหนดี? ให้ตอบโจทย์การใช้งาน
7. ออกแบบช่องลม

“ออกแบบช่องลมระบายความร้อน เพิ่มลมเย็นในบ้าน”
การออกแบบบ้านให้มีช่องลมที่ดีช่วยให้อากาศถ่ายเทสะดวก ช่วยระบายความร้อนสะสมภายในบ้าน ลดความอับชื้น และยังทำให้ลมเย็นผ่านบริเวณภายในบ้านได้มากขึ้นด้วย โดยการออกแบบช่องลมทำได้หลายส่วนของบ้าน ได้แก่
- ทิศรับลมหลัก ควรกำหนดให้ช่องลมอยู่ทางทิศใต้และทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวก
- ช่องลมตรงข้ามกัน (Cross Ventilation) ควรมีช่องลมทั้งสองฝั่งของบ้าน เช่น หน้าต่างด้านหน้าและด้านหลัง หรือสองฝั่งห้อง เพื่อให้ลมไหลผ่านได้สะดวก
- ช่องลมเหนือประตูและหน้าต่าง ติดตั้งบานเกล็ด ช่องลม หรือพัดลมระบายอากาศไว้ด้านบน เพื่อให้อากาศร้อนที่ลอยตัวขึ้นสูงระบายออกได้เร็วขึ้น
- ช่องลมใต้หลังคา ใช้ช่องลมขนาดเล็กหรือฝ้าเพดานระบายอากาศ เพื่อป้องกันความร้อนสะสมใต้หลังคา ลดอุณหภูมิภายในบ้าน เป็นวิธีทำให้บ้านเย็นได้อีกทาง
8. เลือกหลังคาที่สะท้อนความร้อน

“เลือกหลังคาที่สะท้อนความร้อน ใช้ร่วมกับฉนวน”
เพราะหลังคาเป็นจุดที่รับความร้อนจากแสงแดดมากที่สุด การเลือกวัสดุหลังคาที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน เช่น กระเบื้องเซรามิก หลังคาเมทัลชีทเคลือบสารสะท้อนความร้อน โดยใช้ร่วมกับแผ่นสะท้อนความร้อนใต้หลังคา หรือฉนวนกันความร้อนประเภทต่าง ๆ จะช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน เป็นวิธีทำให้บ้านเย็นอีกทางที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
9. ใช้วัสดุปูพื้นที่ช่วยลดความร้อน

“ควรเลือกพื้นกระเบื้อง พื้นหินอ่อน เย็นสบายเท้า”
ปัญหาบ้านร้อนไม่ได้มาจากแค่หลังคาและผนังเท่านั้น แต่ความร้อนยังระบายออกมาทางพื้นได้เช่นกัน จึงควรเลือกวัสดุปูพื้นที่ไม่กักเก็บความร้อนไว้ เช่น กระเบื้องเซรามิก กระเบื้องพอร์ซเลน กระเบื้องแกรนิตโต้ รวมถึงหินอ่อนธรรมชาติ ก็ทำให้บรรยากาศในบ้านเย็นลง แถมยังมีพื้นผิวเย็นสบายเท้าอีกด้วย
10. ปรับเปลี่ยนการตกแต่งภายใน

“วางเฟอร์นิเจอร์โล่ง โปร่ง ใช้วัสดุธรรมชาติ และเพิ่มการระบายอากาศ”
นอกจากวัสดุที่ใช้ตกแต่งบ้าน การออกแบบช่องลมที่เหมาะสม การตกแต่งภายในบ้านก็เป็นวิธีทำให้บ้านเย็นได้เช่นกัน โดยเลือกออกแบบให้ลมผ่านในบ้านได้ดี ไม่มีเฟอร์นิเจอร์กั้นทางลม ไปจนถึงเลือกวัสดุต่าง ๆ โดยสามารถทำได้ดังต่อไปนี้
- ควรเน้นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้โปร่ง โล่ง ไม่ขวางทางลม เช่น ใช้ชั้นวางของแบบโปร่งหรือเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวแทนการกั้นผนังทึบ
- เลือกใช้วัสดุที่ไม่อมความร้อน เช่น ไม้ธรรมชาติ กระเบื้องเซรามิก หรือผ้าฝ้ายแทนหนังและพลาสติก
- ติดตั้งหน้าต่างหรือประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ หรือใช้ม่านโปร่งบังแดดก็ได้เช่นกัน
บ้านไหนที่เจอปัญหาบ้านร้อนอยู่ตลอดเวลา อยากจะปรับปรุงบ้านให้เย็นขึ้น ตามจระเข้ไปดูกันต่อว่าควรจะคำนึงถึงอะไรก่อนบ้าง เพื่อให้ปรับปรุงบ้านได้อย่างเหมาะสมที่สุด
อยากเปลี่ยนบ้านให้เย็นขึ้นต้องนึกถึงอะไรก่อนบ้าง?

1. การออกแบบที่เหมาสม
ควรคำนึงถึงโครงสร้างเดิมของบ้าน ว่ามีข้อจำกัดอะไรบ้าง เช่น การเพิ่มช่องลม หรือติดตั้งฉนวนกันความร้อนสามารถทำได้หรือไม่ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญอย่างสถาปนิกและวิศวกร ก่อนเริ่มก่อสร้างต่อเติมจริง
2. ความสะดวกในการปรับเปลี่ยนและการใช้งาน
วิธีทำให้บ้านเย็นแต่ละวิธี ทำได้สะดวกและยุ่งยากแตกต่างกันออกไป ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวัน และไม่ส่งผลกระทบต่อความสะดวกสบายในระยะยาว เช่น หากไม่สะดวกปรับเปลี่ยนการตกแต่งภายในหรือเพิ่มช่องลมต่าง ๆ ก็ควรเลือกใช้การติดฟิล์มกรองแสง หรือเปลี่ยนสีทาบ้านใหม่ ก็จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
3. งบประมาณที่ตั้งไว้
การปรับปรุงบ้านให้เย็นไม่ว่าวิธีไหนต่างก็มีค่าใช้จ่ายเข้ามาเกี่ยวข้อง ควรคำนวณให้เหมาะสมกับงบประมาณที่มี และเลือกวิธีที่ให้ผลลัพธ์คุ้มค่าที่สุด ทั้งในแง่ของการป้องกันความร้อนเข้าสู่บ้าน และการประหยัดพลังงานในระยะยาว
ปกป้องดูแลบ้าน ให้จระเข้เป็นตัวช่วยทุกจุด!
อยากได้ผลิตภัณฑ์จระเข้มาดูแลบ้าน ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันได้ที่เว็บไซต์จระเข้ เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราดูก่อนก็ได้ ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์บ้านของเรามากที่สุด
จระเข้ ช้อปออนไลน์ได้แล้ววันนี้ สะดวก ง่าย ช้อปได้ทุกที่ทุกเวลา
| ช่องทางการสั่งซื้อ | ลิงก์สำหรับการสั่งซื้อ |
|---|---|
| ช้อปผ่านเว็บไซต์ | |
| ช้อปที่ Shopee | |
| ช้อปที่ Lazada |




