ประเด็นสำคัญ
- การสร้างสระว่ายน้ำคอนกรีตทั่วไป จะใช้งบเริ่มต้นประมาณ 400,000–600,000 บาท ซึ่งจะเพิ่มขึ้นตามขนาดและรูปทรงของสระว่ายน้ำ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ระบบกรองน้ำ ระบบบำบัด เคมีภัณฑ์ และค่าดูแลรักษาที่ต้องเตรียมไว้ล่วงหน้า
- การทำสระว่ายน้ำคอนกรีตปูกระเบื้อง ควรเลือกใช้วิธีการปาดกาวซีเมนต์ด้วยเกรียงหวี ใช้กาวซีเมนต์จระเข้แดงและกาวยาแนว จระเข้แพลทินัม ซึ่งออกแบบสำหรับสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ เพื่อให้สระว่ายน้ำแข็งแรง ทนทาน ปลอดภัยจากปัญหากระเบื้องหลุดล่อนจากแรงดันน้ำ ความชื้น และสารเคมี
การสร้างสระว่ายน้ำ จะต้องวางแผนทั้งงบประมาณ เลือกประเภทสระและระบบบำบัดน้ำให้เหมาะกับพื้นที่และการใช้งาน และควรจะทำความรู้จักขั้นตอนการสร้างสระว่ายน้ำกันเสียก่อน วันนี้จระเข้มีความรู้ดี ๆ ที่จะช่วยให้ทุกคนวางแผนได้ว่าหากจะทำสระว่ายน้ำ ควรเตรียมค่าใช้จ่ายเท่าไรและเลือกใช้วิธีก่อสร้างแบบไหนดี
สร้างสระว่ายน้ำควรมีงบเท่าไหร่?

| ขนาดสระว่ายน้ำ | สระไฟเบอร์กลาส | สระคอนกรีต |
|---|---|---|
| ขนาดเล็ก (3×6 เมตร) | 290,000 – 400,000 บาท | 400,000 – 600,000 บาท |
| ขนาดกลาง (4×8 เมตร) | 450,000 – 600,000 บาท | 700,000 – 1,000,000 บาท |
| ขนาดใหญ่ (5×10 เมตรขึ้นไป) | ไม่ค่อยนิยม / ขนาดมีจำกัด | 1,200,000 บาทขึ้นไป |
งบประมาณสร้างสระว่ายน้ำขนาดเล็ก
ประมาณ 3×6 เมตร หากเลือกสระไฟเบอร์กลาสสำเร็จรูปจะใช้งบเริ่มต้นประมาณ 290,000–400,000 บาท ขึ้นอยู่กับรูปทรงและอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเพราะติดตั้งง่าย ได้ระบบครบพร้อมใช้งาน หากเป็นสระคอนกรีตราคาจะสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 400,000–600,000 บาท
งบประมาณสร้างสระว่ายน้ำขนาดกลาง
ประมาณ 4×8 เมตร สำหรับสระคอนกรีตมักใช้งบประมาณ 700,000–1,000,000 บาท แต่ถ้าเลือกสระไฟเบอร์กลาส ราคาเริ่มต้นจะถูกกว่าอยู่ที่ 450,000 - 600,000 บาทแต่ขนาดมีให้เลือกจำกัด
งบประมาณสร้างสระว่ายน้ำขนาดใหญ่
ตั้งแต่ 5×10 เมตรขึ้นไป สำหรับสระคอนกรีตจะใช้งบมากกว่า 1,200,000 บาทขึ้นไป เนื่องจากขนาดใหญ่ต้องใช้โครงสร้างและระบบที่แข็งแรงกว่า รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านระบบบำบัดน้ำและอุปกรณ์ต่าง ๆ
นอกจากงบประมาณสำหรับขั้นตอนการสร้างสระว่ายน้ำแล้ว ควรเผื่องบไว้สำหรับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ 5 - 10% เช่น ค่าออกแบบสระ ค่าขออนุญาตก่อสร้าง ค่าเดินระบบไฟฟ้าและประปา รวมถึงค่าเครื่องกรองน้ำและอุปกรณ์ดูแลสระ เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาด เครื่องดูดตะกอน หรือสารเคมีบำบัดน้ำ รวมถึงค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าคลอรีนหรือเกลือบำบัดน้ำ ไปจนถึงบริการทำความสะอาดสระว่ายน้ำ ซึ่งจะช่วยให้สระใช้งานได้อย่างยาวนานและปลอดภัย
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาสร้างสระว่ายน้ำ
- ขนาดและรูปทรงของสระ การออกแบบสระว่ายน้ำส่งผลโดยตรงต่อปริมาณวัสดุ ระยะเวลา และค่าแรงก่อสร้าง
- ประเภทสระว่ายน้ำ ประเภทถือเป็นอีกปัจจัยที่กำหนดราคาก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำคอนกรีตที่มีขั้นตอนซับซ้อน สระว่ายน้ำไฟเบอร์กลาสหรือสระว่ายน้ำแผ่นไวนิลสำเร็จรูป ที่ก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแต่ละแบบมีต้นทุนและความทนทานต่างกัน
- ระบบบำบัดน้ำ การบำรุงรักษาก็เป็นเรื่องสำคัญเพราะส่งผลต่ออายุการใช้งานสระว่ายน้ำ เช่น ระบบคลอรีน น้ำเกลือ หรือโอโซน
- งานตกแต่งและอุปกรณ์เสริม ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องโมเสก บันไดไฟเบอร์ ระบบไฟใต้น้ำ หรือน้ำพุในสระ ก็ล้วนมีผลต่อราคาเช่นกัน
ประเภทการก่อสร้างสระว่ายน้ำที่พบเห็นได้บ่อย
1. สระว่ายน้ำคอนกรีต แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นาน

สระคอนกรีตเป็นรูปแบบการสร้างสระว่ายน้ำที่ได้รับความนิยมมาก เพราะออกแบบได้หลากหลาย กำหนดรูปทรง ความลึก และขนาดได้ตามต้องการ เหมาะกับทั้งบ้านพักส่วนตัว รีสอร์ต หรือโรงแรม โดยเป็นการหล่อคอนกรีตเสริมเหล็ก ฉาบปูน แล้วตกแต่งด้วยกระเบื้องเซรามิก กระเบื้องดินเผา หรือกระเบื้องโมเสก ตามสไตล์ที่ต้องการ
- ข้อดี: แข็งแรงทนทานที่สุด ออกแบบได้อิสระตามพื้นที่และสไตล์ของเจ้าของบ้าน
- ข้อเสีย: ใช้เวลาในการก่อสร้างนาน (เฉลี่ย 3–6 เดือน) และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าสระประเภทอื่น
2. สระว่ายน้ำไฟเบอร์กลาส สร้างเร็ว พร้อมใช้งานไว

สระไฟเบอร์กลาสเป็นสระสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงงาน แล้วขนส่งมาติดตั้งที่หน้างาน จึงใช้เวลาสร้างไม่นาน อาจเร็วได้ถึงประมาณ 1–2 สัปดาห์ จึงเป็นจุดเด่นสำคัญของสระว่ายน้ำประเภทนี้ที่ทำให้คนนิยมใช้ อย่างไรก็ตามการทำสระว่ายน้ำไฟเบอร์กลาสมักมีรูปแบบ ขนาด และความลึกให้เลือกจำกัด เพราะผลิตมาพร้อมใช้งาน
- ข้อดี: ติดตั้งรวดเร็ว ราคาถูกกว่าสระคอนกรีต ดูแลทำความสะอาดง่าย
- ข้อเสีย: ปรับแต่งได้ไม่มาก และมีข้อจำกัดด้านขนาดและรูปทรง
3. สระสำเร็จรูปแบบแผ่นไวนิล ราคาประหยัด ติดตั้งง่าย

สระว่ายน้ำไวนิลมีโครงสร้างหลักเป็นเหล็กหรือคอนกรีต แล้วบุภายในด้วยแผ่นไวนิล จึงมีต้นทุนถูกกว่าสระประเภทอื่น เหมาะสำหรับผู้ที่อยากมีสระว่ายน้ำในบ้านที่มีงบจำกัด อีกทั้งยังสามารถเปลี่ยนผิวไวนิลใหม่ได้ หากไวนิลฉีกขาดหรือเสื่อมสภาพ อย่างไรก็ตามอายุการใช้งานโดยรวมจะสั้นกว่าสระไฟเบอร์กลาสและสระคอนกรีต
- ข้อดี: ราคาย่อมเยา ติดตั้งง่าย และเปลี่ยนแผ่นไวนิลได้เมื่อต้องการ
- ข้อเสีย: อายุการใช้งานสั้น (5–10 ปี) และแผ่นไวนิลอาจฉีกขาดหรือซีดจางจากแสงแดดได้ง่าย
ขั้นตอนการสร้างสระว่ายน้ำคอนกรีตเบื้องต้น
1. วางแผนและออกแบบ เลือกตำแหน่ง

ขั้นตอนแรกคือการออกแบบขนาด รูปทรง ความลึก และรูปแบบการก่อสร้าง รวมถึงเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมของสระ เช่น
- แสงแดด ควรเป็นจุดที่มีแสงแดดเพียงพอ เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคตามธรรมชาติ และทำให้น้ำไม่เย็นเกินไปเวลาลงเล่น
- ห่างจากต้นไม้ใหญ่ เพื่อลดปัญหาใบไม้ร่วงลงสระ ทำให้ต้องหมั่นช้อนออก และป้องกันรากไม้กระทบโครงสร้าง
- อยู่ห่างจากฐานราก เลือกตำแหน่งที่ไม่ใกล้ฐานรากของบ้าน หรือสิ่งปลูกสร้างหลักมากเกินไป เพื่อไม่ให้กระทบโครงสร้างบ้าน ป้องกันการทรุดตัวหรือแตกร้าว
- พื้นที่รอบสระ ควรเหลือพื้นที่รอบ ๆ สระสำหรับทางเดิน มุมพักผ่อน หรือวางเก้าอี้อาบแดด
- ระบบน้ำและไฟฟ้า เลือกจุดที่ติดตั้งปั๊มน้ำ ระบบกรอง และระบบไฟได้สะดวก ไม่ต้องเดินท่อยาวเกินไป เพื่อให้ดูแลรักษาได้สะดวก
- ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว ไม่ใกล้ถนนหรือพื้นที่พลุกพล่านเกินไป เพื่อความเป็นส่วนตัวและลดอุบัติเหตุ
2. เตรียมหน้างาน เคลียร์พื้นที่

เมื่อได้แบบที่ต้องการแล้ว ก็จะเป็นขั้นตอนการเตรียมพื้นที่ ขุดดินตามขนาดของสระ และปรับระดับพื้นดิน รวมถึงเตรียมงานฐานรากเพื่อให้รองรับโครงสร้างได้อย่างมั่นคง ขั้นตอนนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะจะเป็นพื้นฐานของงานต่อทั้งหมด หากทำไม่ดีอาจเกิดการทรุดตัวหรือแตกร้าวในอนาคต
3. วางระบบน้ำ ระบบไฟ ระบบบำบัดน้ำ

หลังจากขุดพื้นที่แล้ว ก่อนจะเริ่มหล่อคอนกรีต จะต้องติดตั้งระบบท่อน้ำ ระบบไฟฟ้า และระบบบำบัดน้ำ โดยการฝังท่อในตำแหน่งที่กำหนดไว้ เช่น ช่องสกิมเมอร์ หัวจ่ายน้ำ และท่อน้ำล้น เพื่อให้ใช้งานได้สะดวกและดูแลได้ง่ายในระยะยาว
4. วางแบบ เทคอนกรีต เสริมด้วยจระเข้ ดูราเบส

การสร้างสระว่ายน้ำคอนกรีตตามโครงสร้างที่ออกแบบไว้ โดยทั่วไปมักเป็นการใช้คอนกรีตเสริมเหล็กเพื่อความแข็งแรงทนทาน โดยวางไม้แบบและเหล็กเส้นก่อนเทคอนกรีต แล้วฉาบปูนให้เรียบก่อนตกแต่งด้วยกระเบื้องต่อไป เพื่อให้โครงสร้างแข็งแรงควรฉาบด้วยจระเข้ ดูราเบส ปูนฉาบที่ออกแบบมาเพื่อสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ
จระเข้ ดูราเบส ปูนฉาบปรับผิวสำหรับสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ

จระเข้ ดูราเบส ปูนฉาบปรับระดับที่ออกแบบมาสำหรับงานสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ ทนทาน ไม่หลุดล่อน ฉาบลื่น เนื้อเหนียว ปรับระดับความหนาได้ตั้งแต่ 0.5–5.0 เซนติเมตร และใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องสกัดพื้นผิวหรือทำสลัดดอก เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบเนียน แข็งแรง และยึดเกาะได้ดีกว่าปูนฉาบทั่วไป
คุณสมบัติเด่นของจระเข้ ดูราเบสสำหรับฉาบสระว่ายน้ำ
- สำหรับงานสระว่ายน้ำปรับความหนา 0.5-5 เซนติเมตร
- ฉาบลื่น เนื้อเหนียว ผลิตจากปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทราย และเคมีผสมพิเศษอื่น ๆ
- ยึดเกาะแน่นกว่าปูนฉาบทั่วไป เหมาะกับฉาบก่อนทำกันซึมสระว่ายน้ำ บ่อน้ำ และงานอื่น ๆ ที่ต้องยึดเกาะสูง
5. ทากันซึมจระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ ป้องกันการรั่วซึมในระยะยาว

การทากันซึมเป็นหนึ่งในขั้นตอนเสริมความแข็งแรงเมื่อทำสระว่ายน้ำ โดยทาซีเมนต์กันซึมจระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ทั้งพื้นและผนังสระ เพื่อป้องกันการรั่วซึมและยืดอายุการใช้งาน ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากไม่ทากันซึม หากเกิดปัญหารั่วซึมก็จะต้องรื้อซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด
จระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ กันซึมสระว่ายน้ำ ทนแรงดันน้ำ ไม่มีสารพิษ

จระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์ ซีเมนต์ทากันซึมชนิดยืดหยุ่น ตอบโจทย์งานสระว่ายน้ำและพื้นที่ที่ต้องสัมผัสน้ำโดยตรง ด้วยคุณสมบัติทนแรงดันน้ำมากกว่า 1.5 bar เนื้อซีเมนต์อ่อนตัวสูง ปกปิดรอยร้าวเล็กได้ดี และไม่มีสารพิษที่เป็นอันตราย อีกทั้งยังทนต่อรังสี UV และสภาพอากาศ เหมาะกับทากันซึมก่อนปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ ช่วยป้องกันการรั่วซึมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
คุณสมบัติเด่นของจระเข้ เฟล็กซ์ ชิลด์สำหรับกันซึมสระว่ายน้ำ
- เนื้อซีเมนต์ยึดเกาะสูง ช่วยปิดรอยแตกร้าว ใช้ในพื้นที่ที่มีโอกาสขยับตัวได้
- ปล่อยเปลือยได้ ปูกระเบื้องและทาสีทับได้ รวมถึงเปลี่ยนผิววัสดุ เช่น โลหะ ไม้ เรซิ่นให้เป็นผิวคอนกรีตได้
- เหมาะกับงานกันซึมทั่วไป เช่น สระว่ายน้ำ ดาดฟ้า ระเบียง ห้องน้ำ อ่างเก็บน้ำ บ่อน้ำ บ่อปลา
- ใช้งานง่ายเพียงผสมน้ำตามอัตราส่วนกันซึม 2.5 กิโลกรัม ต่อ น้ำ 1 ลิตร
6. ปูกระเบื้องด้วยกาวซีเมนต์ จระเข้แดง และยาแนวด้วยกาวยาแนว จระเข้แพลทินัม

การปูกระเบื้องสระว่ายน้ำควรใช้กาวซีเมนต์ หลีกเลี่ยงการปูแบบซาลาเปา เพื่อป้องกันกระเบื้องระเบิด โก่งตัว เพราะการใช้กาวซีเมนต์และกาวยาแนวจะช่วยให้กระเบื้องติดแน่นสวยงาม ยืดอายุการใช้งาน ลดปัญหากระเบื้องหลุดล่อนหรือร่องยาแนวแตกร้าวในอนาคต โดยแบ่งเป็นขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
- ยาแนว รออย่างน้อย 48 ชั่วโมงหลังปูกระเบื้อง ผสมกาวยาแนว จระเข้แพลทินัม 4 ส่วน ต่อน้ำ 1 ส่วน แล้วปาดให้เต็มร่อง จากนั้นจึงใช้ฟองน้ำหมาดเช็ดหลังบ่มตัว และคลุมด้วยกระดาษเหนียว 24 ชม. เพื่อป้องกันฝุ่น
- ผสมกาวซีเมนต์ ผสมกาวซีเมนต์จระเข้แดง 2.6 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน ผสมด้วยเครื่องผสมรอบต่ำ ทิ้งไว้ 15 นาทีแล้วกวนซ้ำ ห้ามเติมน้ำเพิ่มหลังบ่มตัวแล้ว
- เตรียมพื้นผิว พื้นผิวปูกระเบื้องต้องสะอาด แข็งแรง ได้ระดับ และแห้งสนิท โดยพื้นใหม่ควรบ่มปูนอย่างน้อย 7 วันต่อความหนา 1 ซม. และห้ามมีคราบน้ำมัน สี หรือเศษปูนหลงเหลือ
- ปูกระเบื้อง ใช้เกรียงหวีปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นและผนังและไล้หลังกระเบื้อง กดและสไลด์กระเบื้องให้แน่น จัดแนวได้ภายใน 15 นาที ความหนากาวซีเมนต์ควรอยู่ระหว่าง 2–10 มม.
- ดูแลและทำความสะอาด ทำความสะอาดร่องยาแนวด้วยน้ำยาที่เหมาะสมหลังบ่มตัวแล้วอย่างน้อย 30 วัน และควรทดสอบก่อนใช้ในพื้นที่เล็ก ๆ ทุกครั้ง
กาวซีเมนต์ จระเข้แดง ปูกระเบื้องสระว่ายน้ำติดแน่น ทนแรงดันน้ำ

กาวซีเมนต์ จระเข้แดง กาวซีเมนต์คุณภาพสูงที่เหมาะสำหรับงานปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ แรงยึดเกาะทนทาน ป้องกันการหลุดล่อนในสภาพแวดล้อมที่ต้องสัมผัสน้ำตลอดเวลา ใช้ได้กับกระเบื้องเซรามิก กระเบื้องดินเผา รวมถึงกระเบื้องแกรนิตโต้และหินธรรมชาติ มั่นใจได้ว่างานปูกระเบื้องสระว่ายน้ำสวยงาม แข็งแรงในระยะยาว มีให้เลือกทั้งสีเทาและสีขาวที่ช่วยป้องกันคราบขาว ช่วยให้พื้นผิวกระเบื้องสวยงามเป็นธรรมชาติ
คุณสมบัติเด่นของกาวซีเมนต์ จระเข้แดงสำหรับปูกระเบื้องสระว่ายน้ำ
- แรงยึดเกาะสูงด้วยส่วนผสมปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทราย และวัสดุผสมพิเศษอื่น ๆ
- ใช้งานง่ายเพียงผสมน้ำตามอัตราส่วนกาวซีเมนต์ 2.6 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยไม่ต้องแช่กระเบื้องในน้ำก่อนปู
- ได้รับการรับรองมาตรฐานอเมริกา ANSI A118.1 และ A118.4
กาวยาแนว จระเข้แพลทินัม ร่องยาแนวทน ไม่ลอกล่อน

กาวยาแนว จระเข้ แพลทินัม กาวยาแนวที่พัฒนาเพื่อให้ตอบโจทย์งานสระว่ายน้ำ สปา และซาวน่ามากที่สุด เหมาะกับการใช้งานร่องยาแนวขนาด 2-15 มิลลิเมตร มีคุณสมบัติยึดเกาะแน่น ทนแรงดันน้ำและอุณหภูมิสูง ลดปัญหาคราบขาว พร้อมป้องกันการเกิดราดำและตะไคร่น้ำด้วยเทคโนโลยีไมโครแบน มั่นใจได้ถึงความสวยงาม ทนทาน และมาตรฐานระดับสากล
คุณสมบัติเด่นของกาวยาแนว จระเข้แพลทินัมสำหรับยาแนวสระว่ายน้ำ
- WCAC Technology ลดการเกิดคราบขาว และปลอดภัยจากคราบฝังแน่นด้วยสารไฮโดรโฟบิก
- แห้งเร็วเปิดใช้ได้รวดเร็ว และเติมน้ำได้หลังยาแนว 24 ชั่วโมง
- ได้รับการรับรองมาตรฐานอเมริกา ANSI A118.6 (Sanded) และ ANSI A118.7 (Sanded)
- เหมาะกับการตกแต่งทุกสไตล์ มีให้เลือกมาถึง 9 เฉดสี
7. ทดสอบระบบสระว่ายน้ำ

หลังสร้างสระว่ายน้ำเรียบร้อยแล้ว ก่อนจะเปิดใช้งานจริง ควรทดสอบระบบต่าง ๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อน ทั้งระบบกรองน้ำ ปั๊มน้ำ หัวจ่ายน้ำ และระบบไฟฟ้าในสระ เพื่อให้มั่นใจว่าทุกระบบจะทำงานได้อย่างสมบูรณ์ หากเป็นสระคลอรีนควรควบคุมค่า pH ให้อยู่ที่ระดับ 7.2-7.8 เพื่อความเป็นกรดด่างที่เหมาะสม
เลือกระบบสระว่ายน้ำแบบไหนดี?
| ระบบสระว่ายน้ำ | ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|---|
| ระบบน้ำล้น | ระดับน้ำเต็มขอบสระ ดูหรูหรา สวยงามเป็นธรรมชาติ | ราคาสูง ใช้พื้นที่เยอะ ค่าดูแลและติดตั้งสูงกว่า |
| ระบบสกิมเมอร์ | ราคาประหยัด ติดตั้งง่าย ดูแลไม่ซับซ้อน | ระดับน้ำไม่เต็มขอบสระ ต้องควบคุมระดับน้ำและดูแลผิวน้ำเอง |
1. ระบบน้ำล้น สวยงามเป็นธรรมชาติ

ระบบน้ำล้นเป็นระบบสระว่ายน้ำ ที่น้ำภายในสระจะล้นออกไปยังรางรอบสระ ซึ่งช่วยกำจัดคราบผิวหน้าและสิ่งสกปรกได้ดี เหมาะกับสระขนาดกลางถึงใหญ่ โดยเฉพาะสระในรีสอร์ตหรือบ้านหรู ที่ต้องการความสวยงามและความทันสมัย ระบบนี้ช่วยให้ระดับน้ำคงที่ตลอดเวลา แต่มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบสกิมเมอร์ทั้งในเรื่องงานก่อสร้างและบำรุงรักษา
- ข้อดี: น้ำไหลล้นขอบสระดูสวยงามเป็นธรรมชาติ เหมาะกับสถานที่ที่เน้นการออกแบบเป็นพิเศษ
- ข้อเสีย: ติดตั้งซับซ้อน ค่าใช้จ่ายสูง ต้องดูแลระบบน้ำล้นและกรองน้ำอย่างสม่ำเสมอ
2. ระบบสกิมเมอร์ ประหยัด ทำความสะอาดง่าย

สกิมเมอร์เป็นระบบมาตรฐานที่ใช้กันทั่วไปสำหรับสระขนาดเล็กถึงกลาง โดยภายในสระจะมีช่องสกิมเมอร์บริเวณขอบสระ สำหรับดูดน้ำและสิ่งสกปรกจากผิวน้ำ ซึ่งระบบนี้ถือว่าติดตั้งง่าย ค่าใช้จ่ายไม่สูง และบำรุงรักษาง่าย เหมาะกับบ้านพักอาศัยทั่วไป แต่จะต้องควบคุมระดับน้ำเองและจะต้องหมั่นตักใบไม้ เศษสิ่งสกปรกบริเวณผิวน้ำเป็นประจำ
- ข้อดี: ติดตั้งง่าย ราคาประหยัด เหมาะกับสระขนาดเล็กถึงกลาง ทำความสะอาดผิวน้ำได้สะดวก
- ข้อเสีย: ต้องคอยเติมน้ำและทำความสะอาดสกิมเมอร์เอง น้ำไม่ไหลล้นสวยเหมือนระบบน้ำล้น
ระบบบำบัดน้ำมีแบบไหนให้เลือกบ้าง?
| ระบบบำบัดน้ำ | ข้อดี | ข้อเสีย |
|---|---|---|
| คลอรีน | ราคาถูก ใช้งานง่าย ได้มาตรฐาน | มีกลิ่นแรง อาจระคายเคืองตาและผิว |
| น้ำเกลือ | อ่อนโยนต่อผิวและดวงตา ลดการสัมผัสสารเคมี | ราคาติดตั้ง อุปกรณ์ และค่าบำรุงรักษาสูง |
| โอโซน | น้ำใสสะอาด ปลอดสารเคมีตกค้าง | ค่าอุปกรณ์และบำรุงรักษาสูง เหมาะกับสระขนาดใหญ่ |
1. ระบบคลอรีน สะดวกใช้งานง่าย

ระบบคลอรีนเป็นวิธีบำบัดน้ำที่นิยมและพบเห็นได้บ่อยที่สุด เพราะดูแลรักษาง่าย ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีคือควบคุมค่า pH และความสะอาดของน้ำได้ง่าย แต่ก็มีจุดอ่อนเรื่องกลิ่นคลอรีนรบกวน และหากใส่คลอรีนมากเกินปริมาณอาจระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาได้
2. ระบบน้ำเกลือ ปลอดภัยจากสารเคมี

ระบบน้ำเกลือเป็นการบำบัดน้ำโดยใช้เกลือแทนคลอรีนที่เป็นสารเคมี โดยใส่เกลือสระว่ายน้ำลงในน้ำ เพื่อสร้างคลอรีนด้วยเกลือแทนการใช้สารเคมี ระบบบำบัดน้ำประเภทนี้จึงช่วยลดความระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตา แต่ก็เป็นระบบที่มีราคาสูงกว่าการใช้คลอรีน และต้องตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ
สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลืออาจไม่เป็นที่คุ้นเคยสำหรับสระว่ายน้ำในบ้านเท่าไรนัก แต่ก็ถือเป็นระบบปลอดภัยต่อสุขภาพ สำหรับใครที่สนใจอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ สระว่ายน้ำระบบเกลือคืออะไร ต่างจากสระคลอรีนอย่างไรบ้าง?
3. ระบบโอโซน ทางเลือกใหม่ ปลอดภัยต่อสุขภาพ

สระว่ายน้ำระบบโอโซน คือ การใช้ก๊าซโอโซน (O₃) โดยใช้เครื่องกำเนิดโอโซนเปลี่ยนออกซิเจนให้เป็นโอโซน ในการฆ่าเชื้อโรคและยับยั้งแบคทีเรียในน้ำ ซึ่งทำให้ฆ่าเชื้อโรคได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้คลอรีน ทำให้น้ำใส ไม่มีกลิ่นสารเคมีรบกวน แต่ก็เป็นระบบที่มีการติดตั้งและบำรุงรักษาค่อนข้างซับซ้อน และต้องใช้ร่วมกับคลอรีนเล็กน้อยเพื่อรักษาคุณภาพน้ำระยะยาว
หากต้องการทราบรายละเอียดของระบบสระว่ายน้ำและระบบบำบัดน้ำให้มากกว่านี้ พร้อมเทคนิคเลือกใช้ให้เหมาะกับบ้าน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ ระบบสระว่ายน้ำและระบบบำบัดน้ำมีกี่แบบ? ควรเลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการสร้างสระว่ายน้ำ
1. สร้างสระว่ายน้ำต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่?
งบประมาณขึ้นอยู่กับขนาดสระและประเภทวัสดุที่เลือก โดยรวมค่าใช้จ่ายสำหรับสระคอนกรีตขนาดเล็ก 3×6 เมตร เริ่มต้นประมาณ 400,000 บาท ส่วนสระคอนกรีตขนาดกลาง 4×8 เมตร เริ่มต้นที่ 450,000 บาท และสระคอนกรีตขนาดใหญ่ 5x10 เมตรขึ้นไปเริ่มต้นที่ 1,200,000 บาท
2. สระว่ายน้ำต้องขออนุญาตก่อสร้างหรือไม่?
หากสระว่ายน้ำมีขนาดใหญ่กว่า 10 ตารางเมตร หรืออยู่ในพื้นที่ที่กฎหมายกำหนด เช่น เขตเมืองหรือหมู่บ้านจัดสรร จะต้องขออนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่น ผู้ขออนุญาตต้องยื่นแบบแปลนพร้อมรายละเอียดโครงสร้าง ความลึก ระบบกรองน้ำ และระบบไฟฟ้าที่เกี่ยวข้อง
3. ใช้เวลาสร้างสระว่ายน้ำนานแค่ไหน?
ระยะเวลาก่อสร้างสระว่ายน้ำ ขึ้นอยู่กับประเภทสระและขนาดสระ สระคอนกรีตทั่วไปมักใช้เวลาประมาณ 2–3 เดือนจนเสร็จสมบูรณ์ ส่วนสระไฟเบอร์กลาสหรือตัวสำเร็จรูปสามารถติดตั้งได้เร็วกว่า โดยประมาณ 2–4 สัปดาห์
4. ดูแลสระว่ายน้ำยากไหม?
การดูแลสระว่ายน้ำไม่ยาก หากเลือกระบบกรองและบำบัดน้ำที่เหมาะสม ควรตรวจสอบคุณภาพน้ำ ทำความสะอาดผิวน้ำ และตรวจสอบระบบกรองอย่างสม่ำเสมอ ทั้งระบบสกิมเมอร์ น้ำล้น หรือระบบบำบัดคลอรีน น้ำเกลือ หรือโอโซน จะช่วยให้น้ำสะอาดและปลอดภัยต่อการใช้งาน
สั่งผลิตภัณฑ์จระเข้สะดวกกว่าเดิมด้วย Jorakay Online Shop

เลือกซื้อผลิตภัณฑ์คุณภาพจากจระเข้ ได้สะดวกยิ่งขึ้นผ่าน Jorakay Online Shop ร้านค้าอย่างเป็นทางการจากจระเข้ ที่พร้อมให้ทุกคนสั่งซื้อสินค้าครบ จบในคลิกเดียว บน Shopee และ Lazada ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เลือกสินค้าที่ต้องการได้ทุกที่ทุกเวลา พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้านทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว คุ้มค่า
| ช่องทางการสั่งซื้อ | ลิงก์สำหรับการสั่งซื้อ |
|---|---|
| สั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ | |
| สั่งซื้อที่ Shopee | |
| สั่งซื้อที่ Lazada |
อยากได้ผลิตภัณฑ์จระเข้มาดูแลบ้าน ลองเข้าไปหาตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์กันได้ที่เว็บไซต์จระเข้ เพียงเลือกภูมิภาค จังหวัด และเขตหรืออำเภอ เพียงเท่านี้ก็จะรู้แล้วว่าร้านค้าแถวบ้านร้านไหนที่มีสินค้าคุณภาพรออยู่ หรือจะลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของเราดูก่อนก็ได้ ว่าจะเลือกผลิตภัณฑ์แบบไหนดี ให้ตอบโจทย์บ้านของเรามากที่สุด



