Policy and Regulation for Protection of Personal Data of Customer, Partner or Visitor

เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกฎหมายฉบับแก้ไข เพิ่มเติมใด ๆ ในอนาคต (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (“บริษัท”) จึงจัดทำประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“ประกาศ”) เพื่ออธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยประกาศฉบับนี้จะครอบคลุมถึงท่านซึ่งเป็น ลูกค้าของบริษัท และผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของบริษัทรวมถึงกรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ตัวแทนหรือบุคคลอื่นใดที่กระทำการแทนหรือ ในนามลูกค้าของบริษัท

นิยาม

“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลธรรมดาซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
“ข้อมูลส่วนบุคคลที่มี ความอ่อนไหว” หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับเชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ความคิดเห็นทางการเมือง ความเชื่อในลัทธิ ศาสนาหรือปรัชญา พฤติกรรมทางเพศ ประวัติอาชญากรรม ข้อมูลสุขภาพ ความพิการ ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลพันธุกรรม ข้อมูลชีวภาพหรือข้อมูลอื่นใดซึ่งอาจก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลหรือกระทบต่อเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลในทำนองเดียวกันตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
“ฐานทางกฎหมาย” หมายถึง เหตุที่กฎหมายรองรับให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลได้ ทั้งนี้ ภายใต้กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
“ลูกค้า” หมายถึง บุคคลที่ซื้อหรืออาจจะซื้อสินค้าและ/หรือใช้บริการของบริษัท หรือบุคคลอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน เช่น ผู้ที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจากบริษัท เป็นต้น
“ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า” หมายถึง บุคคลธรรมดาที่เกี่ยวข้องหรือเป็นตัวแทนของลูกค้า เช่น ผู้บริหาร กรรมการ ผู้ถือหุ้น พนักงาน ตัวแทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่กระทำการแทนหรือในนามลูกค้าของบริษัท

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวม

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่ระบุในประกาศฉบับนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน ทั้งนี้ ตามความจำเป็นเพื่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ของบริษัทที่แจ้งในประกาศฉบับนี้

ข้อมูลระบุตัวตน ได้แก่ คำนำหน้า ชื่อ ชื่อสกุล รูปภาพ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขบัญชีธนาคาร ลายมือชื่อ เป็นต้น
ข้อมูลการติดต่อ ได้แก่ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ส่วนตัว อีเมล์ส่วนตัว ID Line Facebook และข้อมูลบุคคลที่สามารถติดต่อได้ เป็นต้น
ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงาน ได้แก่ ตำแหน่งงาน แผนกที่สังกัด สถานที่ทำงาน อีเมลของสำนักงานซึ่งระบุชื่อของท่าน เป็นต้น
ข้อมูลตามเอกสารแนบ ได้แก่ นามบัตร สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาบัตรจำตัวผู้เสียภาษี ใบสั่งซื้อ ใบเสนอราคา หนังสือรับรอง ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มและเอกสารอื่นๆ เป็นต้น
ข้อมูลอื่นๆ ได้แก่ ภาพถ่ายกิจกรรมบริษัท บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV) วันและเวลาการเข้าติดต่อบริษัท ข้อมูลแสดงความเห็น หรือความสนใจต่อสินค้าหรือบริการ พฤติกรรมการซื้อสินค้า ความพึงพอใจต่อสินค้า หรือบริการ เป็นต้น
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มี ความอ่อนไหว ได้แก่ ศาสนา ซึ่งปรากฏบนสำเนาบัตรประชาชน เป็นต้น
ข้อมูลโทรทัศน์วงจรปิด ได้แก่ ภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่งที่บันทึกด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัท

แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมดังต่อไปนี้

จากตัวท่านเองโดยตรง โดยผ่านช่องทางใดช่องทางหนึ่งดังต่อไปนี้
  • ผ่านทางวาจา ได้แก่ กรณีการพูดคุยต่อหน้า หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น
  • ผ่านทางเอกสาร ได้แก่ นามบัตร เอกสารสัญญา เอกสารข้อตกลง หนังสือรับรองบริษัท ใบเสนอราคา ใบสั่งซื้อ แบบฟอร์ม หรือเอกสารอื่นๆ เป็นต้น
  • ผ่านทางช่องทางการติดต่ออื่น ได้แก่ อีเมล เครือข่ายออนไลน์ เป็นต้น
จากแหล่งอื่นๆ หรือ บุคคลที่สาม
  • จากแหล่งอื่นหรือจากบุคคลที่สาม ได้แก่ นิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดาซึ่งเป็นนายจ้างหรือผู้ว่าจ้างของท่าน ผู้จำหน่ายสินค้า/ผู้ให้บริหาร หรือคู่ค้าทางธุรกิจของบริษัท เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลธุรกิจ หรือเครื่องมือค้นหาข้อมูลสำหรับการติดต่อธุรกิจ ธนาคาร หน่วยงานของรัฐ เป็นต้น
  • จากแหล่งการติดต่อสื่อสาร สอบถามข้อมูล ให้ความเห็น หรือคำติชมแก่บริษัทของท่าน รวมไปถึงจากการ แสดงเจตนาเพื่อซื้อสินค้าหรือใช้บริการจากบริษัทของท่าน การเข้าทำสัญญากับบริษัท หรือการส่งมอบเอกสารต่างๆ เป็นต้น

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อนำไปใช้และ/หรือเปิดเผยภายใต้วัตถุประสงค์และโดยอาศัยฐานทางกฎหมายตามที่ปรากฎในประกาศฉบับนี้เท่านั้น หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมหรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์อย่างอื่นนอกเหนือจากที่ปรากฏในประกาศนี้ บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบถึงการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือแจ้งให้ทราบถึงวัตถุประสงค์ใหม่ในการเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวอีก ครั้ง รวมถึงบริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใหม่ในกรณีที่กฎหมายกำหนดให้บริษัทต้องได้รับความยินยอม ภายใต้หลักเกณฑ์ของกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน

วัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวม ฐานทางกฎหมาย
1.การติดต่อสื่อสารและดำเนินการต่างๆ เพื่อเจรจาก่อนการเข้าทำ สัญญากับท่าน หรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทน หรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง เช่น การนัดประชุม การ ทำใบเสนอราคา การเจรจาเพื่อเข้าทำสัญญา และการตกลง ขอบเขตของข้อสัญญา ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือเข้าทำสัญญา (กรณีที่ท่าน เป็นผู้เข้าทำสัญญาโดยตรง)
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและลูกค้า (กรณีที่ท่านกระทำการแทนหรือในนามของลูกค้า)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
2. การเข้าทำสัญญาและการปฏิบัติตามสัญญา เช่น การติดต่อ สื่อสารงาน การดำเนินการตามคำสั่งซื้อสินค้า /บริการ การให้บริการตามสัญญา การจัดส่งสินค้า การติดตามผล ของการให้บริการ เป็นต้น รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลของท่าน ให้แก่บุคคลภายในที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ผู้รับเหมา ผู้ให้บริการหรือผู้เชี่ยวชาญภายนอกเพื่อการดำเนินการ ให้บริการตามสัญญาหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแก่สินค้าและ บริการ รวมถึงการดำเนินการแก้ปัญหาอันเกี่ยวกับกระบวนการ การผลิตสินค้า . ทั้งนี้ วัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมและเปิดเผยจะขึ้นอยู่กับประเภท ของสินค้าและบริการที่ลูกค้าได้รับจากบริษัท การเข้าทำสัญญา และการปฏิบัติตามสัญญาในข้อนี้ ให้รวมถึงการติดต่อ ประสานงานกับท่านในเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวกับสัญญาด้วย เช่น การขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขและรายละเอียดอื่นๆ ในสัญญา การต่ออายุสัญญา ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา (กรณีที่ท่านเป็นคู่สัญญาโดยตรง)
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและลูกค้า (กรณีที่ท่านกระทำการแทนหรือในนามของคู่ค้า)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
3. การดำเนินการเกี่ยวกับการบริการลูกค้าสัมพันธ์ เช่น การรับเรื่อง ร้องเรียน การประเมินผล การสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้า เพื่อพัฒนาการตรวจสอบให้บริการของบริษัท เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
4. การเรียกเก็บค่าสินค้า หรือบริการ การออกใบเสร็จรับเงิน การดำเนินการใดๆ เพื่อติดตามทวงหนี้ กรณีที่ลูกค้าของบริษัท ผิดนัดชำระค่าสินค้าและบริการ ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา (กรณีที่ท่านเป็นคู่สัญญาโดยตรง)
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท และลูกค้า (กรณีที่ท่านกระทำการแทนหรือในนามของลูกค้า)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
5. จัดการเกี่ยวกับองค์กรและการดำเนินธุรกิจของบริษัท เช่น การจัดการด้านระบบและฐานข้อมูล การขออนุญาตประกอบ กิจการกับหน่วยงานรัฐ การสอบบัญชี การตรวจสอบภายใน การขอคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางธุรกิจ การเปิดเผยข้อมูล ของท่านแก่สถาบันการเงิน เพื่อขอสินเชื่อของบริษัท การซื้อ ขายกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้าง องค์กร ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
6. การปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท เช่น การออก ใบกำกับภาษี การจัดเก็บและการเปิดเผยข้อมูลทางบัญชีให้แก่ ผู้ตรวจสอบบัญชี และหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายและคำสั่ง ของผู้มีอำนาจ ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
  • เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับกับบริษัท
7. การเก็บข้อมูลการติดต่อสื่อสารของท่านต่อไปบนฐานข้อมูล บริษัทเพื่อการติดต่อทางธุรกิจในอนาคต รวมถึงการเปิดเผย ข้อมูลของท่านให้แก่ บริษัทในเครือ เพื่อการติดต่อ และสาน สัมพันธ์เพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจในอนาคต ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
8. การรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณบริษัท เช่น การสอดส่อง ดูแลบริเวณภายในบริษัทด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เป็นต้น ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
9. การวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้าหรือบริการ และสำรวจ ความพึงพอใจต่อการให้บริการเพื่อออกแบบกิจกรรมส่งเสริม การขายหรือปรับปรุงการให้บริการ ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • ขอความยินยอม
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • ขอความยินยอมโดยชัดแจ้ง
10. การปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือ โต้แย้ง ข้อกล่าวหาที่มีผลต่อบริษัท เช่น การดำเนินตามกฎหมาย การ ริเริ่มคดี การต่อสู้คดี การระงับข้อพิพาทนอกศาล และการ ดำเนินการอื่นๆ เพื่อปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของ บริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัทตามที่มีกฎหมาย อนุญาต ข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป
  • เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

ผลกระทบจากการไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อติดต่อสื่อสารในการเข้าทำสัญญาหรือดำเนินการต่าง ๆ ให้เป็นไปตามสัญญาที่มีกับท่านหรือบุคคลหรือ นิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้าง รวมถึงเพื่อปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งในกรณีที่ท่านไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่บริษัท ท่านหรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้างอาจไม่ได้รับความสะดวกในการติดต่อสื่อสารเพื่อทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญาได้ ในบางกรณีอาจส่งผลให้บริษัทไม่สามารถเข้าผูกพันหรือปฏิบัติตามสัญญากับท่านหรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้างได้ นอกจากนี้อาจทำให้ท่านหรือบุคคลหรือนิติบุคคลที่ท่านกระทำการแทนหรือกระทำการในนามหรือเป็นลูกจ้างอยู่ในฐานะที่ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับได้ในบางกรณี

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลที่ระบุไว้ในประกาศฉบับนี้ ในบางกรณี บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลของท่านแก่บุคคลหรือองค์กรใด ๆ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้

  • บุคคลหรือหน่วยงานต่างๆ ภายในบริษัทฯ ทั้งนี้ ให้หมายความรวมถึงผู้บริหาร หัวหน้างาน พนักงาน ลูกจ้าง และ/หรือบุคลากร ภายในของบริษัทดังกล่าวเท่าที่เกี่ยวข้อง และตามความจำเป็นเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  • ผู้ให้บริการและตัวแทนที่บริษัทว่าจ้าง เช่น ผู้สอบบัญชี ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางธุรกิจ หรือที่ปรึกษาที่มีความเชี่ยวชาญอื่น ภายนอกบริษัท ผู้ให้บริการขนส่ง ผู้รับเหมาช่วง เป็นต้น
  • บริษัทอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มในเครือ คู่ค้าทางธุรกิจ และผู้ให้บริการภายนอกและตัวแทนที่บริษัทดังกล่าวว่าจ้าง
  • หน่วยงานของรัฐ เช่น กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เป็นต้น
  • ธนาคารพาณิชย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย
  • พนักงานตำรวจ ศาล อนุญาโตตุลาการ ทนายความ บุคคลหรือหน่วยงานใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการพิจารณาคดีและการระงับข้อพิพาท
  • บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายกิจการ การควบรวมกิจการ การปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร

ในบางกรณี บริษัทอาจมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศให้แก่บริษัทในกลุ่มในเครืออื่นใดที่อยู่ใน ต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุข้างต้นด้วย โดยบริษัทจะตรวจสอบให้มั่นใจว่าประเทศปลายทางมีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ขณะนั้นกำหนด หากบริษัทจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังประเทศที่มีมาตรฐานคุ้มครองส่วนบุคคลที่ยังไม่ได้รับการรองรับตามกฎหมายหรือกรณียังไม่มีกฎหมายกำหนดรับรองเรื่องมาตรฐานดังกล่าว บริษัทจะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อให้การส่งหรือโอนดังกล่าวเป็นไปโดยชอบ ซึ่งอาจรวมถึงการขอความยินยอมจากท่านในกรณีที่จำเป็น หรือการจัดการให้มีมาตรการต่างๆ ที่เหมาะสม เพื่อให้ท่านยังคงสามารถบังคับตามสิทธิของท่านได้ รวมทั้งจัดให้มีมาตรการเยียวยาทางกฎหมายที่มีประสิทธิภาพตามที่กฎหมายกำหนด

ระยะเวลาการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านหรือบุคคลที่ท่านกระทำการแทนกับบริษัท สิ้นสุดลง ในกรณีที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านแต่ไม่ได้เข้าผูกนิติสัมพันธ์กับท่านหรือบุคคลที่ท่านกระทำการแทน บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี

ทั้งนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวทั้งหมดหรือบางส่วนอาจถูกเก็บรักษาเกินกว่าระยะเวลาที่ระบุไว้ข้างต้นสำหรับการนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์เพื่อ การปฏิบัติตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และการปกป้องสิทธิโดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือโต้แย้งข้อกล่าวหาที่มีต่อบริษัท โดยในกรณีดังกล่าว ข้อมูลส่วนบุคคลจะถูกเก็บรักษาตลอดระยะเวลาที่มีความจำเป็นต่อการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว และหรือภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด

ท่านมีสิทธิตามกฎหมายในการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ ดังนี้

  • สิทธิเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมให้เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ทั้งหมดหรือบางส่วนได้ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นไว้ โดยการเพิกถอนความยินยอมจะไม่ส่งผลกระทบต่อความถูกต้องสมบูรณ์ของการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้กระทำก่อนที่จะมีการเพิกถอนความยินยอมนั้น
  • สิทธิขอเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและขอให้บริษัททำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ รวมถึงขอให้บริษัทเปิดเผยการ ได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอมต่อบริษัทให้แก่ท่านได้
  • สิทธิร้องขอให้โอนหรือส่งข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลอื่นหรือตัวท่านเองได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทได้ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิร้องขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทลบ ทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ตามเงื่อนไขของกฎหมาย
  • สิทธิในการขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทแก้ไขข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติมข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ได้
  • สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิในการร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในกรณีที่บริษัทหรือพนักงานหรือผู้รับจ้าง ของบริษัท ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ ท่านสามารถแจ้งการใช้สิทธิดังกล่าวแก่บริษัทได้โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามข้อมูลการติดต่อของบริษัทซึ่งอยู่ด้านล่างนี้ ในกรณีที่บริษัท ไม่อาจทำตามคำขอของท่านได้ บริษัทจะอธิบายเหตุผลของการปฏิเสธไปพร้อมกับคำตอบสนองดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัว

บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขปรับปรุงประกาศความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ตามสมควร โดยประกาศฉบับนี้ได้รับการแก้ไขปรับปรุงครั้งล่าสุด ในวันที่ 30 มีนาคม 2566

ข้อมูลและช่องทางการติดต่อของบริษัท

บริษัท จระเข้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด
เลขที่ 10 ถนนกรุงเทพกรีฑา แขวงทับช้าง เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร รหัสไปรษณีย์ 10250
โทรศัพท์ 02-7201000 Email : info@jorakay.com
( เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 08.00 – 17.00 น. )